“J-SINGER” ปีนี้โตกระโดด รับพท.เช่าฟื้น-ผุดโปรเจคใหม่ “เอาท์เลต ซิงเกอร์”-“Senior Care”

"J-SINGER" ปีนี้โตกระโดด รับพท.เช่าฟื้น จ่อผุดโปรเจคใหม่ "เอาท์เลต ซิงเกอร์"-"Senior Care"


นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ผู้นำอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและขาย นำเสนอข้อมูลผลประกอบการงวดปี 2563 และแนวโน้มผลประกอบการปี 2564 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยระบุถึงผลประกอบการของปี 2563 ซึ่งมีการเติบโตอย่างโดดเด่นถึงแม้เจอสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีกำไรสุทธิ 56.4 ล้านบาท เติบโต 228% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน

ขณะที่ในปี 2564 ตั้งเป้ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากตลาดพื้นที่เช่าที่คาดการณ์ว่าจะกลับมาฟื้นตัวอย่างโดดเด่นทั้งนี้บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ๆ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการเปิดโครงการศูนย์การค้าแห่งใหม่  “JAS GREEN VILLAGE – KUBON” บนพื้นที่คู้บอน ขนาดพื้นที่เช่า 22,350 ตารางเมตร ซึ่งเป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์แห่งที่ 5 ของบริษัท ซึ่งจะสามารถเปิดตัวในไตรมาส 4/2564 นี้ ซึ่งปัจจุบันได้มียอดขายพื้นที่แล้ว 86%

ทั้งนี้ บริษัทจะมุ่งสู่ธุรกิจผู้สูงอายุ (Senior Care Service) ซึ่งตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจดังกล่าว โดยจะเปิดให้บริการด้าน Senior Living  และ Senior Day care ในโครงการดังกล่าวเป็นที่แรก ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวไตรมาส 3-4 ของปี 2565 โดยโครงการ “JAS GREEN VILLAGE – KUBON” มีจุดแข็งในเรื่องของพื้นที่ที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุซึ่งอาศัยอยู่พื้นที่ใกล้กับโครงการ

นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ทำ “ซิงเกอร์ เอาท์เลต” ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาแผนและพัฒนา โดยจะนำสินค้าของ SINGER มาเปิดเอาท์เลตในพื้นที่ของโครงการ

“ปี 2564 นี้ ตั้งเป้าผลการดำเนินงานเติบโตไว้สูงมากๆ เป็นรูปแบบของ J-Curve ซึ่งการเติบโตดังกล่าวจะเกิดจากการสะสม Asset อย่างต่อเนื่อง และจะได้เห็นการ Synergy ร่วมกันของบริษัทในกลุ่มที่สามารถสร้างกระแสรายได้จากการอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวได้ทั้ง JMT และ SINGER”  นายสุพจน์ กล่าว

 

ด้าน นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยว่า ผลประกอบการของ ปี 2563 เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีกำไรสุทธิ 443.30 ล้านบาท เติบโตกว่า 150% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี มาจากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น และรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในปี 2564 นี้บริษัทฯ คาดว่าจะช่วยหนุนให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง

โดยบริษัทฯ มีแผนการเติบโตในปี 2564 จากการรุกปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมากขึ้น โดยตั้งเป้าที่จะมีพอร์ตสินเชื่อมากกว่า 10,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 6,604 ล้านบาท โดยเน้นการขยายไปยังกลุ่มลูกค้าเกษตรกร และกลุ่มลูกค้าในระบบโลจิสติกส์ ที่จะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากภาพรวมของเศรษฐกิจมากนัก

นอกจากนี้บริษัทคาดว่านี้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้จะไม่เกิน 4% จาก ณ ช่วงสิ้นปีก่อนอยู่ที่ระดับ 4.4% โดยบริษัทมีการพัฒนาระบบการปล่อยสินเชื่อ การควบคุมคุณภาพหนี้ และพัฒนากระบวนการการเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

Back to top button