SET สัปดาห์นี้ “เสี่ยงพักฐาน” ยอดโควิดพุ่งทะลุ 2 พันราย! แนะสะสม 14 หุ้น Outperform ตลาดฯ

SET สัปดาห์นี้ "เสี่ยงพักฐาน" ยอดโควิดพุ่งทะลุ 2 พันราย! แนะสะสม 14 หุ้น Outperform ตลาดฯ


Weekly outlook : “Sideways/Down” ต้าน 1,566/1,575 จุด รับ 1,529/1,510 จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำประเด็นที่น่าจับตาสัปดาห์นี้ (26 – 30 เม.ย.64)

  • (*/-) US : ปธน. Biden ประกาศเตรียมปรับขึ้นภาษี 1) อัตราภาษีรายได้ส่วนเพิ่ม(marginal income tax rate) จาก 37% เป็น 39.6% และ 2) เงินที่ได้จากการลงทุน(capital gains tax) เพิ่มจาก 20% เป็น 39.6% ส าหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 1 ล้านเหรียญต่อปี เพื่อสมทบงบสำ หรับมาตรการช่วยเหลือด้านการศึกษาและการดูแลเด็กซึ่งคาดจะปธน. Biden จะเปิดเผยรายละเอียดในสัปดาห์นี้ แต่อาจไม่ผ่านรัฐสภาแนะติดตามท่าทีของสส.และวุฒิสมาชิก
  • (-) Fund Flows : แม้ค่าเงินดอลล่าร์จะยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าที่ 91.1 จุด แต่เสี่ยงแข็งค่าขึ้นสัปดาหืหน้าก่อน FOMC กด Fund Flows เอเชียผันผวน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา (จ-พฤ) เป็นยอด Net Sell ที่ -1,986 ล้านเหรียญ โดยเป็น Net Sell ในทุกประเทศโดยเฉพาะไทยที่ขายสุทธิทุกวันทำการรวม -220 ล้านเหรียญ กดดันตลาดหุ้นไทย
  • (-) Covid-19: ยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งทะลุ 2 พันราย ยอดผู้เสียชีวิตรายวัน 4 – 7 รายต่อเนื่อง สะท้อนรุนแรงกว่ารอบอื่น โดยคาดว่ากรณียอดผู้ติดเชื่อรายวันช่วงวันที่ 24-30 เม.ย.ถ้าสูงระดับ 2.5-3 พันราย เสี่ยงที่รัฐฯจะเข้มงวดขึ้น กดดันเศรษฐกิจไทย
  • (-) Vaccine : รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่าบริษัท Pfizer พร้อมจัดหาวัคซีนให้ประเทศไทยจำนวน 10 ล้านโดส อาจเป็นจิตวิทยาบวกต่อความเชื่อมั่นในการฉีดวัคซีน หลังวัคซีน Sinovac และ AstraZeneca มีผลข้างเคียง แต่อย่างไรก็ดี อัตราการฉีดวัคซีนเทียบกับสัดส่วนของประชากรในไทยยังค่อนข้างต่ำเพียง 0.8% เทียบกับเอเชียที่3.6% และทั่วโลกที่ 6.7% จะกดดันภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศ
  • (*/-) Market EPS : EPS ตลาดหุ้นไทยปี 2021-22 ถูกปรับขึ้นต่อสู่ 80.26 และ 94.33 บาท/หุ้น แรงหนุนจากการปรับ EPS ขึ้นของกลุ่ม TRANS, ENTER, AUTO, CONSTRUCT แต่อย่างไรก็ดี EPS ตลาดมี downside จากผลกระทบของ ThirdWave ซึ่งล่าสุด Nomura ปรับลด GDP ปี 2021 ของไทยลงสู่ 2.1% จาก 2.8% และเริ่มเห็น house อื่นๆปรับลดลงต่ำกว่า 2% ดังนั้น ประเมินหลังผ่านพ้นการรายงานงบ 1Q21 จะเห็นการทยอยปรับ EPS ลง เป็นความเสียงต่อตลาด
  • (*) Key to Watch : ติดตาม 1) การประชุม BOJ (26 – 27 มี.ค.) และ FOMC (27 – 28 เม.ย.) Nomura คาดไม่มี่การออกมาตรการเพิ่มเติม 2) US 1Q21 GDP จะรายงาน 29 เม.ย. Consensus คาด 6.5%q-q annualized จากไตรมาสก่อนหน้าที่ที่ 4.3% การประชุม OPEC & Non-OPEC วันที่ 28 เม.ย. ติดตามแผนกำลังการผลิต

กลยุทธ์การลงทุน : เสี่ยงพักฐานในกรอบถัดไป 1,540 – 1,510 จุด(หากตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเร่งตัวช่วงวันนี้- 30 เม.ย.) กลยุทธ์เน้นขายทำกำไรบางส่วน จากหุ้นที่มีกำไรส่วนต่าง เพื่อสะสมสภาพคล่อง รอจังหวะพักฐาน สะสมกลุ่มที่คาดว่าจะ Outperform ได้แก่กลุ่มชิ้นส่วนฯ (HANA, KCE) Consumer Finance (SAWAD) โรงไฟฟ้า (RATCH, GPSC) กลุ่มสื่อสาร (INTUCH) กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BCH) กลุ่มเครื่องดื่ม (ICHI, SAPPE) กลุ่มซ่อมแซมบ้าน (HMPRO, GLOBAL) และ High Yield (KKP, SPALI) โดยคงแนะน้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่ 45%

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ TVO, BEC, BDMS ส่วนสัปดาห์ก่อน SCGP, ICHI, BDMS ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย -0.38% แย่กว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 0.30%

1) TVO (TP 42.00) : คาดผลประกอบการ 1H21 โดดเด่น รับราคาถั่วเหลืองขาขึ้น

2) BEC (TP 11.20) : หุ้น Turnaround ที่ผลประกอบการจะค่อยๆ ฟื้นตัว

3) BDMS (TP 27.00) : กำไรปีนี้เด่น + นายกฯเปิดทางให้รพ.เอกชนนำเข้าวัคซีนได้

Back to top button