UBIS เชื่อปี 59 กำไรทำนิวไฮต่อเนื่องจากปีก่อน เล็งนำ”แฟมิลี่ฯ”เข้าตลาดหุ้น

UBIS เชื่อปี 59 กำไรทำนิวไฮต่อเนื่องจากปีก่อน เล็งนำ"แฟมิลี่ฯ"เข้าตลาดหุ้น


นายฉัฐภูมิ ขันติวิริยะ ประธานกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ UBIS เปิดเผยว่า กำไรสุทธิปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 145 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตตามรายได้ที่คาดว่าจะทะลุ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 875 ล้านบาท

โดยปีนี้บริษัทจะเน้นการขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทั้งในจีน ยุโรป และอเมริกาใต้ ขณะเดียวกันจะออกบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์อาหาร

ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายกิจการในจีน ราว 50 ล้านบาท เพื่อที่จะลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และส่วนที่เหลือใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักร และพัฒนาระบบการวิจัยและพัฒนา (R&D)

นายฉัฐภูมิ กล่าวอีกว่า สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนด้วยการเพิ่มทุนจะนำมาใช้ในการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนการเข้าซื้อกิจการของบริษัทที่เป็นคู่แข่งรายเล็กกว่า โดยปัจจุบันบริษัทดังกล่าวมีรายได้ราว 200-300 ล้านบาท/ปี อย่างไรก็ตามรายละเอียดอื่นๆยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และในส่วนที่เหลือนำมาใช้ในการชำระหนี้คืน 50-60 ล้านบาท เพื่อที่จะลดระดับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เหลือ 0.8 เท่าจากปัจจุบันอยู่ที่ 1.11 เท่า

นายฉัฐภูมิ กล่าวว่า สำหรับบริษัท แฟมิลี คอร์ปอเรชั่น ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 40% นั้น มีแผนจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯโดยคาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ในช่วงปลายปี 59 ถึง ต้นปี 60 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการ          

สำหรับ แฟมิลี ประกอบธุรกิจผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนพลาสติก โดยกลุ่มบริษัทได้พัฒนาสินค้าและคุณภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่องจากทักษะความเชี่ยวชาญหลักเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี

อนึ่ง เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยการออกหุ้นใหม่ 227,999,991 หุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท แบ่งการจัดสรรเป็น 3 ส่วน เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล,รองรับการใช้การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตาม UBIS-W1 และเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 3.00 บาท โดยจัดสรรในแต่ส่วนจำนวนไม่เกิน 75,999,997 หุ้น

Back to top button