“อเบอร์ดีน” เตรียมเสนอขาย “กองทุนเปิด ABPCAP” เพิ่มทางเลือก นลท.รายย่อย

อเบอร์ดีน เตรียมเสนอขาย “กองทุน ABPCAP” เปิดโอกาสนักลงทุนรายย่อย ด้วยกองทุนที่มุ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มี exposure ใน Private Equity Private Debt โครงสร้างพื้นฐานหรือ Infrastructure ชั้นนำทั่วโลก


นายโรเบิร์ต เพนาโลซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการลงทุนใน Private Market สำหรับนักลงทุนรายย่อย ถือว่ามีข้อจำกัดหลายด้าน ทั้งการใช้เงินลงทุนจำนวนมาก สภาพคล่องในการซื้อขายต่ำ รวมถึงการเข้าถึงโอกาสลงทุนที่ส่วนใหญ่ถูกจำกัดเฉพาะกลุ่มลูกค้า ซึ่งอเบอร์ดีน เล็งเห็นข้อจำกัดต่างๆ ที่เกิดขึ้น และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินการลงทุนเพื่อปลดล็อคข้อจำกัดในการลงทุนนั้น ถือเป็นกองแรกในไทย สำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ด้วยกองทุนหลักมุ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มี exposure ใน Private Equity Private Debt โครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure และ REITs ผ่านกองทุนรวม “abrdn Listed Private Capital Fund” (ABPCAP)

สำหรับกลยุทธ์ของ ABPCAP นั้น ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย โดยกองทุนนี้จะลงทุนผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ Aberdeen Standard SICAV I – Listed Private Capital Fund ที่ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงโอกาสการเติบโตและผลตอบแทนในระยะยาวจากการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนได้ ซึ่งกองทุนหลักมุ่งเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มี exposure ใน Private Capital Markets ผ่านการลงทุนใน 2 ส่วนหลัก

โดยส่วนแรกลงทุนผ่าน Listed Investment Companies ชั้นนำของโลกซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือการลงทุน (Investment Vehicles) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยมีพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่อยู่ใน Private Market และส่วนที่สองลงทุนผ่านบริษัทบริหารจัดการการลงทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Listed Asset Managers) ที่บริหารจัดการการลงทุนในกองทุนหรือสินทรัพย์ใน Private market ครอบคลุมทั้ง Private Equity Private Debt  อสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure และ REITs ที่มีโอกาสทำกำไรและเติบโตโดดเด่น

อีกทั้งยังกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความหลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของการลงทุนประเภทต่างๆ ตลอดจนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ

“การลงทุนใน Private Market ในประเทศไทยถือว่ายังมีข้อจำกัดสำหรับรายย่อย แต่ด้วยแนวโน้มการเติบโตและโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี ทำให้การลงทุนใน Private Market จะเป็นโอกาสสำคัญและทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจอย่างมากของนักลงทุนรายย่อย ABPCAP จึงถือว่าเป็นกองทุนที่จะปลดล็อคข้อจำกัดในหลายๆด้าน และครอบคลุมการลงทุนในสินทรัพย์ใน Private Market หลากหลายประเภทที่มีโอกาสในการทำกำไร พร้อมกับการเติบโตของสินทรัพย์ ” นายโรเบิร์ต กล่าว

นอกจากนี้ด้วยความเชี่ยวชาญของอเบอร์ดีน ผนวกกับ Listed Investment Companies และ Listed Asset Managers ระดับโลกที่กองทุนหลักลงทุนนั้นมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการลงทุนใน Private Market รวมไปถึงการคัดสรรสินทรัพย์ จะมีการประเมินมูลค่าและโอกาสของการลงทุนควบคู่กันไปด้วย เพื่อเฟ้นหาสินทรัพย์ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และสร้างโอกาสในการทำกำไรที่โดดเด่น รวมทั้งให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG  เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

สำหรับสัดส่วนการลงทุนภายใต้การบริหารของบริษัทที่กองทุนหลักลงทุน ครอบคลุมตลาดอเมริกาเหนือ ประมาณ 52% ตลาดยุโรปที่ไม่ใช่สหราชอาณาจักร 24% ตลาดสหราชอาณาจักร 10% และ ตลาดเอเชีย 4% โดยแบ่งประเภทของการลงทุนของกองทุนหลัก ที่มี exposure ไปยัง Private Equity  34% Listed Managers 35% Private Debt 11% ที่เหลือเป็นอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) รวมทั้งโลหะมีค่า (Precious Metals) (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565)

โดยบลจ.อเบอร์ดีนจะเสนอขายกองทุนเปิด อเบอร์ดีน ลิสเต็ด ไพรเวท แคปปิตอล ฟันด์ หรือ ABPCAP ด้วยกันทั้งหมด 2 ชนิดหน่วยลงทุน ได้แก่ ชนิดสะสมมูลค่า (ABPCAP-A) และ ชนิดเพื่อการออม (ABPCAP-SSF) โดยผู้ที่ลงทุนระหว่างวันที่ 18-29 เมษายน 2565 จะได้รับสิทธิพิเศษในช่วงเวลาดังกล่าว

อย่างไรก็ดีที่อเบอร์ดีน (abrdn) ช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าของบริษัทวางแผน เก็บออม และลงทุนเพื่ออนาคตธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ การให้บริการด้านการลงทุน การให้คำปรึกษาด้านการลงทุน และ การบริการที่ปรึกษาส่วนตัวด้านการลงทุน และสิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบรืษัทในการช่วยให้ลูกค้าของบริษัทเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้น โดยสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของบรืษัทมีมูลค่ากว่า 542 พันล้านปอนด์* และมีผู้ถือหุ้นมากกว่า 1 ล้านคน

อนึ่ง การลงทุนของบริษัทมีรากฐานที่แข็งแกร่งจากการศึกษาวิจัยข้อมูลเชิงลึกและความร่วมมือจากทีมผู้เชี่ยวชาญของบริษัท โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและส่งมอบผลลัพธ์ที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น บริษัทให้บริการดูแลการลงทุนให้กับนักลงทุนรายย่อย รัฐบาล กองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกัน บริษัทอื่นๆ องค์กรการกุศล ตลอดจนมูลนิธิต่างๆ โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การดูแลที่มีมูลค่ามากถึง 464 พันล้านปอนด์* และมีผู้เชี่ยวชาญการลงทุน 800 คนในกว่า 30 แห่ง ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564

สำหรับผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคตทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในกองทุนรวม ที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุ ไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม

Back to top button