ORI เดินเกมรุก 5 ธุรกิจใหม่ “ORIGIN NEXT LEVEL” ดันรายได้ปี 67 แตะ 2.3 หมื่นลบ.

ORI โชว์ยอด Backlog แน่นกว่า 3.4 หมื่นลบ. ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้กว่า 9.4 พันลบ. เผยไตรมาส 3/64 เปิดตัว 5 โครงการใหม่ เดินเกมรุก 5 ธุรกิจใหม่ “ORIGIN NEXT LEVEL” ดันรายได้ปี 67 แตะ 2.3 หมื่นลบ.


นายพิเชษฐ์ สกุลศรีประเสริฐ นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยข้อมูลภาพรวมของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 17 ส.ค.2564 ว่า ปัจจุบันบริษัทฯ แบ่งการดำเนินธุรกิจเป็น 4 แกนหลัก ประกอบด้วย 1. RESIDENTIAL ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบ มีโครงการทั้งสิ้น 100 โครงการ มูลค่าโครงการทั้งหมด 146,215 ล้านบาท 2. RECURRING ธุรกิจโรงแรมและอาคารสำนักงานให้เช่า มีโครงการทั้งสิ้น 9 โครงการ มูลค่า REIT รวมประมาณ 23,700 ล้านบาท 3. SERVICE ภายใต้บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด โดยดำเนินธุรกิจนิติบุคคล เป็นนายหน้ารับฝากซื้อฝากขาย บริการงานแม่บ้าน ช่างซ่อม การตกแต่งภายใน และ 4. ORIGIN NEXT LEVEL ซึ่งเป็น NEW BUSINESS

ปัจจุบัยบริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรประมาณ 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 42,826 ล้านบาท โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่น เพิ่มเติมอีก 1 โครงการ คือโครงการคอนโดมิเนียมระดับมิดเอนด์แบรนด์ใหม่ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามคำแหง ทริปเปิ้ล สเตชั่น (Origin Plug & Play Ramkhamhaeng Triple Station) มูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดพรีเซลล์ได้ในช่วงไตรมาส 4/2564

ส่วนธุรกิจโรงแรมที่ร่วมทุนกับพันธมิตรปัจจุบันมีทั้งสิ้น 4 โครงการ มูลค่ารวม 12,800 ล้านบาท โดยโครงการล่าสุดคือ ONE ORIGIN PHAYATHAI สำนักงานและโรงแรม

สำหรับงวดไตรมาส 2/2564 บริษัทมีรายได้รวม 3,801 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 2/2564 มีโครงการเปิดตัวใหม่ (Presales) จํานวน 8,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 75% มูลค่าประมาณ 6,035 ล้านบาท และบ้าน 25% มูลค่าประมาณ 25% และมียอดโอนกรรมสิทธิ์รวม 3,962 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 2,161 ล้านบาท และบ้าน 924 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมร่วมทุน 876 ล้านบาท

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 บรัทมี Backlog อยู่ที่ 34,679 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 9,410 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2565-2567

อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงเป้าหมายการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ 20 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3/2564 คาดเปิดตัว 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ Origin Plug & Play Ramkhamhaeng Triple Station มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท, โครงการ The Hampton Suites Rayong มูลค่าโครงการ 1,300 พันล้านบาท และโครงการ Brixton Pet&Play Sukhumvit 107 มูลค่าโครงการ 480 ล้านบาท และเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรร 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ Britania Tiwanon-Ratchapruek มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท และโครงการ Britania Ratchapruek-Nakhon In มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เดินหน้าลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ประกอบด้วย 1. ORIGIN HEALTH CARE โดยจะสร้างคลินิกเสริมความงาม 2 แห่งคือ PORTOBELLO MALL ในพื้นที่ศรีราชา และ MERCURY VILLE ในพื้นที่ชิดลม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 4/64 และการสร้าง HEALTHCARE CENTER ในพื้นที่สุขุมวิทที่จะเปิดตัวในไตรมาส 1/65 และORIGIN WELLNESS COMPLEX RAMINTRA คาดว่าจะเริ่มเปิดบริการไตรมาส 4/2566 พร้อมสร้าง ORIGIN HEALTHCARE CLUB ที่จะเปิดในช่วงปี 2565 นอกจากนี้ยังสร้าง WELLNESS SERVICE PLATFORM ตั้งเป้าว่าในปี 2568 ธุรกิจ ORIGIN HEALTH CARE จะสร้างรายได้ให้กับบริษัท 330 ล้านบาท

2) LOGISTICS CENTER ซึ่งบริษัทพัฒนาร่วมกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD จะดำเนินการเสร็จสิ้นในไตรมาส 2/65 พร้อมยังวางแผนพัฒนาให้บริษัท ALPHA INDUSTRIAL SOLUTION เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประมาณปี 2567-2558

3)  FINANCIAL SERVICE ตอบสนองลูกค้าภายในและภายนอกทั้งเรื่อง INSURANCE BROKER, CAPITAL และ ASSET MANAGEMENT โดยคาดว่า 5 ปีข้างหน้าจะมีรายได้ 450 ล้านบาท

4) ENERGY ทั้งการทำ PRIVATE PPA BUSINESS MODEL สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม, การพัฒนาโซลาร์เซลล์สำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบ และการติดตั้ง EV CHARGER ให้ครบ 200 แท่นภายในปี 2565 รวมไปถึงอยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจก๊าซ LNG ซึ่งจะมีบทบาทอย่างมากในอนาคต

รวมทั้ง 5) SERVICE SOLUTIONS เป็นระบบที่จะให้บริการหลากหลายด้านอย่างครอบคลุม โดยตั้งเป้ารายได้แตะ 1,000 ล้านบาทในอีก 5 ปี ข้างหน้า

ทั้งนี้ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 14,000 ล้านบาท และในปี 67 เพิ่มขึ้นเป็น 23,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ช่วงระหว่างปี 2564-2567 ประมาณ 20%

Back to top button