จับตา! ศบค. ชุดใหญ่ เคาะขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จ่อเลื่อนเปิด 5 จว.ท่องเที่ยว-ปรับเคอร์ฟิว

เรื่องที่น่าจับตาวันนี้ ศบค. ชุดใหญ่ เคาะขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน อีกทั้งเสนอเลื่อนเปิด 5 จว.ท่องเที่ยว จากเดิมวันที่ 1 ต.ค.ออกไปเป็นวันที่ 1 พ.ย.64 พร้อมพิจารณาปรับเวลาเคอร์ฟิว เป็นเวลา 22.00 น.ถึง เวลา 04.00 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันนี้จะพิจารณาข้อเสนอของฝ่ายความมั่นคงการขยายระยะเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 2 เดือน รวมถึงเสนอเลื่อนการเปิดพื้นที่ Sandbox เพิ่มเติม 5 จังหวัด จากเดิมวันที่ 1 ต.ค.ออกไปเป็นวันที่ 1 พ.ย.64

ขณะที่จะพิจารณาข้อเสนอผ่อนคลายกิจกรรม 10 ประเภท  คือ 1. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และวัยก่อนเรียน 2. ห้องสมุดสาธารณะ เอกชน ชุมชน 3. พิพิธภัณฑ์, แหล่งประวัติศาสตร์, โบราณสถาน 4. ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หอศิลป์ 5. กีฬาในร่ม ในห้องที่มีระบบปรับอากาศ ฟิตเนส  6. ร้านทำเล็บ 7.ร้านสัก 8. ร้านนวด สปา เพื่อสุขภาพ 9. ธุรกิจโรงภาพยนตร์ ฉายภาพยนตร์ และ 10. การเล่นดนตรีในร้านอาหาร

ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุง ระบบหมุนเวียนอากาศ จัดสถานที่ให้เป็นไปตามมาตรการ COVID-Free Setting ก่อนเปิดทำการ

ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า สถานที่กลุ่มกีฬากลางแจ้งที่ร่มโล่งอากาศถ่ายเทสะดวก การซ้อมของนักกีฬาทีมชาติไทยทุกประเภท และร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด (เฉพาะที่จำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค) จะพิจารณาให้ขยายเวลาเปิดให้บริการเป็นไม่เกิน 21.00 น.

นอกจากนี้จะพิจารณาข้อเสนอปรับเวลาการห้ามออกนอกเคหะสถานหรือเคอร์ฟิว เป็นเวลา 22.00 น.ถึง เวลา 04.00 น. และปรับลดระยะเวลากักตัวผู้เดินทางเข้ามาในประเทศทุกช่องทาง หากเป็นผู้ที่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์อย่างน้อย 14 วัน จะกักตัว 7 วัน และต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR  2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อเข้ามาถึงประเทศและครั้งสองวันที่ 6-7 ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาทางอากาศ ไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน จะต้องกักตัวอย่างน้อย 10 วัน และตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง  รวมถึงผู้ที่เดินทางเข้ามาทางบก ไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ต้องกักตัวอย่างน้อย 14 วัน และตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง

ขณะที่การเข้าพักที่โรงแรมกักตัวทางเลือกหรือ Alternative Quarantine (AQ) อนุญาตออกกำลังกายกลางแจ้ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน สั่งซื้อสินค้า อาหารจากภายนอก รวมถึงประชุมสำหรับนักธุรกิจระยะสั้น ส่วนสถานกักกันของรัฐ หรือ State Quarantine (SQ)  และ การกักกันผู้เดินทางในสถานที่เอกเทศ หรือ Organizational Quarantine (OQ) อนุญาตการออกกำลังกายกลางแจ้ง สั่งซื้อสินค้า อาหารจากภายนอก

นอกจากนั้นที่ประชุมยังจะพิจารณาแนวทางการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวพื้นที่สีฟ้า โดยมีรูปแบบการท่องเที่ยวขึ้นอยู่กับลักษณะและความพร้อมของพื้นที่สีฟ้า คือการจัดพื้นที่ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั้งจังหวัด การจัดพื้นที่ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั้ง อำเภอ ตำบล หรือหมู่บ้าน ขึ้นอยู่กับความพร้อม การจัดพื้นที่ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ เฉพาะสถานที่/พื้นที่ หรือระหว่างสถานที่/ระหว่างสถานที่/พื้นที่โดยมีการเดินทางแบบควบคุม Sealed Route ในรูปแบบ Bubble and Seal

ทั้งนี้การดำเนินการต้องตอบโจทย์เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่กับการควบคุมโรคอย่างเหมาะสม โดยต้องมีแผนเตรียมการและทรัพยากรรองรับสถานการณ์ ทางด้านการจัดการด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ป้องกันการแพร่ระบาดรวมทั้งสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่

 

 

 

 

Back to top button