สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.ย. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.ย. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ รวมทั้งความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวและการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,299.99 จุด ลดลง 569.38 จุด หรือ -1.63% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,352.63 จุด ลดลง 90.48 จุด หรือ -2.04% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,546.68 จุด ลดลง 423.29 จุด หรือ -2.83%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และตลาดยังถูกกดดันจากสัญญาณครั้งใหม่ที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 452.35 จุด ลดลง 10.07 จุด หรือ -2.18%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,506.50 จุด ลดลง 144.41 จุด หรือ -2.17%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,248.56 จุด ลดลง 325.32 จุด หรือ -2.09% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,028.10 จุด ลดลง 35.30 จุด หรือ -0.50%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านและกลุ่มการเงิน ขณะที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,028.10 จุด ลดลง 35.30 จุด หรือ -0.50%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 ต.ค.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.20% ปิดที่ 75.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 44 เซนต์ หรือ 0.60% ปิดที่ 79.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 14.5 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดที่ 1,737.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.ปีนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 22.70 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 22.467 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 15.90 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 961.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 93.50 ดอลลาร์ หรือ 4.80% ปิดที่ 1,854.20 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.

ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.41% แตะที่ 93.7686 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.59 เยน จากระดับ 111.01 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9299 ฟรังก์ จากระดับ 0.9259 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2680 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2622 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1676 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1698 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3531 ดอลลาร์ จากระดับ  1.3708 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7239 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7286 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button