สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ต.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ต.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (1 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่เป็นไปในเชิงบวก, ความคืบหน้าในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 และแนวโน้มการผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,326.46 จุด เพิ่มขึ้น 482.54 จุด หรือ +1.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,357.04 จุด เพิ่มขึ้น 49.50 จุด หรือ +1.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,566.70 จุด เพิ่มขึ้น 118.12 จุด หรือ +0.82%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (1 ต.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการประกาศเตือนเรื่องผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากภาวะชะงักงันด้านห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 452.90 จุด ลดลง 1.91 จุด หรือ -0.42

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,517.69 จุด ลดลง 2.32 จุด หรือ -0.04%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,156.44 จุด ลดลง 104.25 จุด หรือ -0.68% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,027.07 จุด ลดลง 59.35 จุด หรือ -0.84%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ (1 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากภาวะชะงักงันด้านห่วงโซ่อุปทาน และราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ส่งผลกดดันหุ้นกลุ่มส่งออกที่มีรายได้เป็นสกุลเงินดอลลาร์ด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,027.07 จุด ลดลง 59.35 จุด หรือ -0.84%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (1 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัสในวันจันทร์ที่ 4 ต.ค. และตลาดได้ปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกพลัสจะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนพ.ย.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 1.10% ปิดที่ 75.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2561 และปรับตัวขึ้น 2.60% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 97 เซนต์ หรือ 1.20% ปิดที่ 79.28 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้นเกือบ 2.70% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (1 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และนักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลว่า เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,758.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 0.4% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 48.90 เซนต์ หรือ 2.22% ปิดที่ 22.536 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 11.20 ดอลลาร์ หรือ 1.16% ปิดที่ 973.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ 1,903.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (1 ต.ค.) หลังนักลงทุนปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวของสหรัฐ

ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.20% แตะที่ 94.0364 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.04 เยน จากระดับ 111.37 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9300 ฟรังก์ จากระดับ  0.9325 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2635 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2658 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1597 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1583 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3553 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3475 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7266 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7230 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Back to top button