สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 ต.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 ต.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวสูงกว่าคาดในเดือนก.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เช่น หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มค้าปลีก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,314.67 จุด เพิ่มขึ้น 311.75 จุด หรือ +0.92% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,345.72 จุด เพิ่มขึ้น 45.26 จุด หรือ +1.05% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,433.83 จุด เพิ่มขึ้น 178.35 จุด หรือ +1.25%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ ตลาดยังบวกขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐซึ่งได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 456.03 จุด เพิ่มขึ้น 5.26 จุด หรือ +1.17%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,576.28 จุด เพิ่มขึ้น 98.62 จุด หรือ +1.52%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,194.49 จุด เพิ่มขึ้น 157.94 จุด หรือ +1.05%ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,077.10 จุด เพิ่มขึ้น 66.09 จุด หรือ +0.94%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) โดยนักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ อาทิ หุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นด้วย หลังจากราคาน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,077.10 จุด เพิ่มขึ้น 66.09 จุด หรือ +0.94%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แม้ว่าหลายประเทศรวมถึงสหรัฐได้พยายามกดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าระดับดังกล่าวเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 78.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนวันที่ 21 ต.ค. 2557

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 82.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. 2561

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงวันแรกในรอบ 4 วันทำการ โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.70 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1,760.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.60 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 22.608 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ 959.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 24.40 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,899.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) ขานรับดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์

ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.21% แตะที่ 93.9767 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.49 เยน จากระดับ 110.89 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9279 ฟรังก์ จากระดับ 0.9245 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2577 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2581 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1597 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1623 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3628 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3614 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7291 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7289 ดอลลาร์

Back to top button