2 โบรกเชียร์ “ซื้อ” SPALI หลังโชว์กำไร Q3 เกินคาด ลุ้น Q4 ทะยานต่อรับกำลังซื้อฟื้น

2 โบรกเชียร์ "ซื้อ" SPALI หลังโชว์กำไรไตรมาส 3/64 โตเกินคาด ลุ้นผลงานไตรมาส 4/64 ทะยานต่อรับกำลังซื้อฟื้น และมาตรการผ่อนเกณฑ์ LTV หนุน


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI หลังรายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิเติบโต

โดยบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น SPALI ราคาเป้าหมาย 28 บาท อิง PE ปี 2565 ที่ 9 เท่า โดย SPALI รายงานกำไรไตรมาส 3/64 ทำได้ดีที่ 1.7 พันล้านบาท (โต 43% จากปีก่อน, -1% จากไตรมาสก่อน) ดีกว่า consensus ทำไว้ 10% โดยเป็นผลจากรายได้โต 43% จากปีก่อน, โต 4% จากปีก่อน เนื่องจากมีคอนโดใหม่เริ่มโอน และ GPM ดีขึ้นเป็น 40.4% (ไตรมาส 3/63 = 36.6%, ไตรมาส 2/64 = 39.9%) เนื่องจากคอนโดใหม่มี GPM ที่สูงขึ้น ส่วนกำไรทรงตัวจากไตรมาสก่อน จากส่วนแบ่งกำไร JV จากออสเตรเลียที่ลดลงหลังจากรับรู้กำไรในครึ่งแรกของปี 64 ไปมากแล้ว

ทั้งนี้ ยังประเมินกำไรปี 2564 ที่ 6.2 พันล้านบาท เติบโต 45% จากปีก่อน โดยกำไร 9 เดือนแรกของปี 64 อยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท เติบโต 76% จากปีก่อน คิดเป็น 68% จากทั้งปี สำหรับกำไรไตรมาส 4/64 จะดีขึ้นและทำจุดสูงสุดของปีราว 2 พันล้านบาท จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวและมี backlog รอโอนสูง

ส่วนกำไรปี 2565 จะยังคงสดใสทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็น 6.8 พันล้านบาท โต 10% จากปีก่อน เนื่องจากจะมีคอนโดใหม่เริ่มโอนเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น จะได้ผลบวกการผ่อนเกณฑ์ LTV และการเปิดประเทศทำให้ยอดขายจากต่างชาติเริ่มกลับมา ราคาหุ้น outperform SET เพิ่มขึ้น 11% ในช่วง 1 เดือน จากข่าวดีที่ ธปท. ประกาศผ่อนเกณฑ์ LTV

ทั้งนี้ ยังแนะนำซื้อ จากกำไรไตรมาส 3/64 ที่ดีกว่าคาด และจะดีกว่ากลุ่มที่ปรับตัวลดลงทั้งจากปีก่อน และไตรมาสก่อน ส่วนกำไรปี 2564-65 จะยังคงโดดเด่นทำสถิติสูงสุดใหม่ ด้าน valuation ยังน่าสนใจเทรด PE ปี 2565 ที่ 7.2 เท่า คิดเป็น -1SD

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า SPALI รายงานกำไรไตรมาส 3/64 ตามคาด เพิ่มขึ้น 41% จกปีก่อน ทั้งนี้มาจากแรงหนุนยอดโอนเพิ่ม 25% จากปีก่อน โดยยอดโอนคอนโดฯเพิ่มจาก 1.9 พันล้านบาท เป็น 3.9 พันล้านบาท จากการโอน 3 โครงการใหญ่ (Riva Grande, Veranda ภาษีเจิญ และ Premier เจริญนคร) ช่วยชดเชยการโอนแนวราบที่อ่อนลงเล็กน้อยตามยอดจองแนวราบที่ได้รับผลลบ COVID-19 เนื่องด้วยสัดส่วนการโอนคอนโดฯ สูงขึ้นช่วยหนุน GPM เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ท่ามกลางรายจ่ายดำเนินงานไม่เพิ่มมาก และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ออสเตรเลียอ่อนลงเพราะกิจกรรมการโอนน้อย ภาพรวมกำไรดีกว่าคาดจาก Margin และรายจ่ายการขายและบริหาร

อย่างไรก็ตาม SPALI มียอดจองรอโอนไตรมาส 4/64 และปี 2565 ราว 9.7 พันล้านบาท และ 14 พันล้านบาท พิจารณาจากยอดโอน 9 เดือนแรกที่ 18 พันล้านบาท และการคาดหมายยอดจองที่ดีขึ้นในปีหน้า โดยทางฝ่ายคาดกำไรเติบโตต่อเนื่องไปถึงปีหน้า P/E ล่าสุดแค่ 7- 8 เท่า และยีลด์ระดับ 6-7% พร้อมปรับเป็น “ซื้อ” ปรับไปใช้ราคาพื้นฐาน 25 บาท

Back to top button