จับตา SABUY ปี 64 โกยกำไร 194 ลบ. ลุ้นปี 65 โตต่อ 140%

จับตา SABUY ปี 64 โกยกำไร 194 ลบ. ลุ้นปี 65 โตต่อ 140% รับปัจจัย 3 บวก ลงทุน PFS-จับมือ FORTH-ขับเคลื่อนสู่ Fintech คาดช่วยดันยอดขายเพิ่ม พร้อมอัพเป้าใหม่ 23 บ. จากเดิม 16 บ.


บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY โดยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้น 55% เป็น 466 ล้านบาท หรือเติบโต 140% เมื่อเทียบจากปีก่อน และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 16 บาท เป็น 23 บาท โดยระบุว่าการเติบโตของกำไรนั้นจะถึงจุดที่คาดการณ์ไว้ได้จะมาจากสามปัจจัยหลักคือ 1) การบริการ ATM/CDM โดย SABUY ประกาศเข้าซื้อ Platt Finserve Co., Ltf. (PFS) ในสัดส่วน 50% ซึ่งได้รับสัญญาว่าจ้างให้เป็นผู้บริการตู้กดเงินสดกับ บริษัท เคาน์เตอร์เวอร์วิส จำกัด จำนวน 10,000 ตู้ที่ตั้งอยู่ตามสาขาของ 7-Eleven โดยมีระยะเวลาสัญญา 10 ปี และตู้ ATM ของผู้ให้บริการอื่นจะถูกยกออกจากสาขา ส่วนเคาน์เตอร์เวอร์วิสบางแห่งก็จะเปลี่ยนมาให้บริการ CDM ซึ่งมองว่าจะวิน-วินด้วยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งธนาคารก็ไม่ต้องการที่จะแบกรับค่าต้นทุนสำหรับตู้ ATM และสาขา

โดยประเทศไทยมีตู้ ATM ทั้งหมดกว่า 5 หมื่นตู้ โดย PFS จะรับรายได้จากการติดตั้ง และค่าธรรมเนียมการโอนที่ผูกกับบริการ CDM โดย SABUY ตั้งเป้าไว้ว่า PFS จะรับรู้กำไรราว 300-500 ล้านบาทในปี 2565 ส่วนบล.บัวหลวงคาดว่ากำไรจะอยู่ราว 300 ล้านบาท นอกจากนั้นแล้ว PFS ยังตั้งเป้าขยายบริการ CDM ไปยังผู้ค้าปลีกรายใหญ่อื่นๆอีกเช่นกัน

รวมทั้ง 2) การจับมือกับบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART โดยประกาศตั้งบริษัทร่วมทุนกับคู่แข่งอย่างบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH โดยจะใช้ช่องทางการขาย และการตลาดของทั้งสองบริษัทในการโปรโมทธุรกิจของกันและกันรวมถึงการร่วมกันบริหารต้นทุน และตั้งราคาด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อบริษัทปรับเพิ่มราคาของบางบริการ รายได้ส่วนเพิ่มก็จะโชว์อยู่ในผลลัพธ์ทางธุรกิจของทั้งสองบริษัท

ขณะเดียวกัน SABUY จะยังได้รับเครื่องหยอดเหรียญจำนวน 4,644 เครื่องจาก FORTH ซึ่งเมื่อรวมกับเครื่องที่มีอยู่แล้ว 5,600 เครื่อง จะทำให้ SABUY มีเครื่องหยอดเหรียญกว่า 1 หมื่นเครื่องด้วยกันซึ่งจะยกระดับบริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจ BLS คาดว่าธุรกิจตู้หยอดเหรียญจะเทิร์นอราวนด์จากขาดทุน 50 ล้านบาทในปี 2564 เป็นกำไรราว 50-60 ล้านบาทในปี 2565

อีกทั้ง 3) ขับเคลื่อนสู่ Fintech โดย SABUY เปิดตัวระบบสินเชื่อสำหรับผู้ใช้งานที่อยู่ในระบบนิเวศน์ของบริษัท เริ่มด้วยบริการ “เปลี่ยนตู้เป็นทุน” ซึ่งจะปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการตู้เติมเงินโดยใช้ตู้เติมเงินออนไลน์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

โดยบล.บัวหลวง คาดว่าจะมียอดสินเชื่อคงค้างเป็นมูลล่า 500 ล้านบาทในปี 2565 และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 10% ส่วนทาง SABUY คาดการณ์ไว้ที่ 1 พันล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 12-15% นอกจากนั้นแล้วยังมองว่าบริษัทจะสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นอีกจากผลิตภัณฑ์ขายประกัน

ทั้งนี้ปัจจัยข้างต้นทั้งสามนั้นจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับ SABUY ราว 370-500 ล้านบาท ซึ่งหากมองว่ารายได่จากธุรกิจอื่นคงที่ ทั้งสามปัจจัยก็จะช่วยทำให้กำไรสุทธิของ SABUY เพิ่มขึ้นจาก 194 ล้านบาทในปี 2564 เป็น 564-694 ล้านบาทในปี 2565 เพิ่มขึ้น 191-258% เมื่อเทียบจากปีก่อน

Back to top button