บิ๊กล็อต SCG โผล่ 2.21 พันลบ. ต่ำกระดาน คาด RATCH ทำดีลซื้อกิจการ

บิ๊กล็อต SCG โผล่ 384.79 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 2.21 พันลบ. ราคาเฉลี่ย 5.75 บ. ซึ่งเป็นราคาต่ำกระดานซื้อขายวันนี้ โดย SCG ปิดตลาดที่ระดับ 6.45 บ. คาด RATCH ทำดีลซื้อกิจการตามแผน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ธ.ค.2564) มีรายการสรุปซื้อขายกระดานรายใหญ่ (Big lot) บริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) หรือ SCG จำนวน 35 รายการ ปริมาณ 384,789,131 หุ้น มูลค่ารวม 2.21 พันล้านบาท ราคาเฉลี่ย 5.75 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาต่ำกว่ากระดาน

โดยราคาหุ้น SCG ปิดตลาดวันนี้ 6.45 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 13.16% สูงสุดที่ 6.45 บาท ต่ำสุดที่ 5.75 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 2.22 พันล้านบาท ทั้งนี้ รายการบิ๊กล็อตหุ้น SCG จำนวน 384.789 ล้านหุ้น คิดเป็น 40.29% ของทุนชำระแล้วที่มี 955 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท

ขณะที่ก่อนหน้านี้บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า บริษัทจะเข้าลงทุนโดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญใน SCG จากผู้ถือหุ้นปัจจุบันบางรายของ SCG และเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SCG ซึ่งจะออกและจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) รวมมูลค่าราว 3.4 พันล้านบาท ก่อนจะทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือของ SCG ซึ่งหากสามารถซื้อหุ้นได้ทั้งหมดจะต้องใช้เงินอีก 3,279 ล้านบาท

โดยสัญญาซื้อขายหุ้นจำนวน 34 ฉบับ ระหว่าง RATCH และผู้ถือหุ้น SCG จำนวน 34 ราย ซึ่งรวมถึง บมจ. สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง (SPI) เพื่อซื้อหุ้น SCG จำนวนรวมทั้งสิ้น 384,789,131 หุ้น คิดเป็น 40.29% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SCG ก่อนการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน (หรือคิดเป็น 33.07% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SCG ภายหลังจากการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน) ในราคาหุ้นละ 5.75 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 2,212,537,503.25 บาท

โดยสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน SCG จำนวน 208,695,652 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท (คิดเป็นร้อยละ 17.93 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SCG ภายหลังจากการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของ SCG ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)) ในราคาจองซื้อหุ้นละ 5.75 บาท คิดเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 1,199,999,999 บาท

ทั้งนี้ภายหลังการเข้าทำธุรกรรม บริษัทจะได้มาซึ่งหุ้นสามัญของ SCG เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 593,484,783 หุ้นโดยคิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 51% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SCG ภายหลังจากการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บริษัท และจะส่งผลให้ SCG มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ RATCH ซึ่งจะทำให้บริษัทมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ SCG จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 570,210,869 หุ้น (คิดเป็น 49% ของหุ้น SCG ภายหลังเพิ่มทุน) ในราคา 5.75 บาทต่อหุ้น ภายในระยะเวลาที่กำหนด

นอกจากนั้น RATCH ระบุว่า การเข้าลงทุนในครั้งนี้เพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดย RATCH มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขนาดต่างๆ และกลุ่มสหพัฒน์ เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจหลักคือธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นดั้งเดิมของ SCG ที่จะยังคงสัดส่วนการถือหุ้นใน SCG อย่างมีนัยสำคัญที่จะผนึกกำลังกันเสริมสร้างธุรกิจผลิตไฟฟ้าของ SCG ให้มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนเต็มศักยภาพต่อไป รวมทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในโครงการอื่นๆกับกลุ่มสหพัฒน์ในอนาคต

สำหรับการลงทุนในครั้งนี้เป็นไปตามเป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตรวมของบริษัทที่ 10,000 เมกะวัตต์ และมูลค่ากิจการรวม 200,000ล้านบาท ภายในปี 68 และสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในธุรกิจผลิตไฟฟ้า ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ต่อไป โดยบริษัทจะใช้เงินทุนกู้ หรือ เงินทุนหมุนเวียนในบริษัทเพื่อเป็นทุนสำหรับการเข้าลงทุนในครั้งนี้

โดยนางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH เปิดเผยว่า คาดว่าธุรกรรมทั้งหมดจะแล้วเสร็จในเดือนธ.ค.64 ซึ่งบริษัทจะร่วมกับเครือสหพัฒน์ เป็นพันธมิตรในการลงทุนและพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าผลักดัน SCG เติบโตโดยเฉพาะด้านพลังงานทดแทน รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมพลังงานและความร่วมมือในธุรกิจอื่น ๆ

Back to top button