PF มั่นใจปี 65 รายได้ฟื้นตัวเด่น รับโครงการร่วมทุนพันมิตรตปท.โตแรง

PF มั่นใจปี 65 รายได้ฟื้นตัวเด่น รับโครงการร่วมทุนพันมิตรตปท.โตแรง ตั้งเป้า 3 ปี (ปี 65-67) รายได้แตะ 1.3 หมื่นลบ.


นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทในปี 65 แนวโน้มรายได้คาดว่าจะเห็นการปรับตัวสูงขึ้นกว่าในปี 64 โดยจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ในระดับใกล้เคียงกับก่อนช่วงเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งกลยุทธ์ของบริษัท คือ การเพิ่มรายได้จากโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรจากต่างประเทศทั้ง 3 ราย ได้แก่ ฮ่องกงแลนด์ ซูมิโตโม ฟอร์เรสทรี และเซกิซุย เคมิคอล

โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้จากโครงการร่วมทุนในปี 65 ที่ 5 พันล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะปิดที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงถึง 5 เท่า โดยมาจากการโอนโครงการร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ มูลค่า 1.4 พันล้านบาท ในโครงการ เลค เลเจ้นด์ บางนา-สุวรรณภูมิ บ้านเดี่ยวระดับราคา 30-120 ล้านบาท ซึ่งเปิดไปเมื่อเดือนมี.ค. 64 ที่มีการโอนเข้ามามากขึ้นในปี 65 และเตรียมเปิดโครงการต่อเนื่อง ซึ่งจะมีโครงการ เลค เลเจนด์ แจ้งวัฒนะ ที่เตรียมเปิดคฤหาสน์ติดทะเลสาบเพิ่มเติมในเฟส 2 ราคาเริ่มต้นที่ 60 ล้านบาท

ขณะเดียวกันยังมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมากจากโครงการร่วมทุนกับซูมิโตโม ฟอร์เรสทรี ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ มูลค่า 2.5 พันล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนให้กับลูกค้าได้ในช่วงไตรมาส 2/65 โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียมดังกล่าวเข้ามาในปี 65 ราว 2 พันล้านบาท อีกทั้งยังมีโครงการ เลค ฟอร์เรสต์ บ้านเดี่ยวระดับราคา 3.5-7 ล้านบาท ที่คาดว่าจะทำรายได้เข้ามาอีก 500 ล้านบาท รวมกับโครงการร่วมทุนกับเซกิซุย เคมิคอล พัฒนาบ้านระดับราคา 20-60 ล้านบาท ในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ ทั้ง 5 ทำเล ซึ่งจะมีรายได้เข้ามาอีก 600 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายในระยะ 3 ปี (ปี 65-67) จะมีรายได้จากโครงการร่วมทุนรวม 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนที่สำคัญในการสร้างการเติบโตและเพิ่มความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นให้กับบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีเป้ารายได้ที่มาจากโครงการร่วมทุนในปี 65 ที่ 5 พันล้านบาท และในปี 66-67 คาดจะมีรายได้อีก 4 พันล้านบาท/ปี

“กลยุทธ์ในการเติบโตของโครงการร่วมทุนนั้น เราได้อาศัยความร่วมมือกับพันธมิตรมาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ทั้ง Know-how ในการพัฒนาโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการในระดับพรีเมี่ยม ซึ่งที่ผ่านมาสามารถสร้างสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวระดับบนที่มีความโดดเด่น และสร้างความแตกต่างในตลาดที่อยู่อาศัย ความร่วมมือกับพันธมิตรจากต่างประเทศทั้ง 3 ราย ยังเป็นการต่อยอดศักยภาพและสร้างการเติบโตของธุรกิจในระยะยาวได้อย่างดี” นายวงศกรณ์ กล่าว

Back to top button