สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ม.ค. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ม.ค. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดในวันอังคาร (18 ม.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยกำไรลดลงในไตรมาส 4/2564 ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,368.47 จุด ลดลง 543.34 จุด หรือ -1.51%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,577.11 จุด ลดลง 85.74 จุด หรือ -1.84% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,506.90 จุด ลดลง 386.86 จุด หรือ -2.60%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันอังคาร (18 ม.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงมากที่สุด ขณะที่การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นของสหรัฐ สะท้อนถึงการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 479.79 จุด ลดลง 4.72 จุด หรือ -0.97%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,133.83 จุด ลดลง 67.81 จุด หรือ -0.94%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,772.56 จุด ลดลง 161.16 จุด หรือ -1.01% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,563.55 จุด ลดลง 47.68 จุด หรือ -0.63%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (18 ม.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับผู้บริโภคและกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่ภาวะการจ้างงานที่ดีขึ้นในสหราชอาณาจักรและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณว่า จะมีการคุมเข้มนโยบายการเงินตามมา

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,563.55 จุด ลดลง 47.68 จุด หรือ -0.63%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีในวันอังคาร (18 ม.ค.) หลังมีรายงานว่ากลุ่มกบฏฮูตีได้ก่อเหตุโจมตีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้นและส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 85.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.  2557

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 87.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.  2557

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (18 ม.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 4.1 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ 1,812.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 57.4 เซนต์ หรือ 2.5% ปิดที่ 23.492 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 14.9 ดอลลาร์ หรือ 1.54% ปิดที่ 979.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น +26.40 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 1,904.60 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (18 ม.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.49% แตะที่ 95.7296 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.62 เยน จากระดับ 114.58 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9170 ฟรังก์ จากระดับ 0.9143 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2506 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2519 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1328 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1406 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3597 ดอลลาร์ จากระดับ1.3646 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7185 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7209 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button