โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” BCPG เป้า 19.60 บ. ชี้ “โซลาร์ไต้หวัน” ดันกำไรโตเด่น

โบรกฯ แนะ "ซื้อ" BCPG เป้า 19.60 บ. ชี้ขยายลงทุน “โซลาร์ไต้หวัน” 6 พันลบ. รวมกำลังผลิตแตะ 469 MW จะช่วยหนุนกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนที่จะตามมาอีกมากในเร็วๆนี้


บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยประเมิน บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ภายหลังบริษัทฯ รายงานตลาดฯ ว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติวงเงินลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวันในวงเงินไม่เกิน 5,080 ล้านเหรียญไต้หวัน (6,096 ล้านบาท) เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 357 MW ทำให้รวมบริษัทฯ จะพัฒนาโครงการในไต้หวันทั้งสิ้น 469 MW โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงปี 2565 – 2567 และจะเริ่ม COD แล้วในช่วง 2565-2568

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในครั้งนี้ โดยเป็นการลงทุนที่จะทำให้ BCPG มีกำลังการผลิตที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด (จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ COD แล้ว 503 MW) และจะช่วยหนุนกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนที่จะตามมาอีกมากในเร็วๆนี้

สำหรับการลงทุนในโครงการในไต้หวันจะเป็นโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง ซึ่งคาดค่าไฟอยู่ราว 5.2-5.6 บาทต่อหน่วย โดยการลงทุนใน Solar farm ในไต้หวัน คาดว่าใช้เงินลงทุนราว 70 ล้านบาท ต่อ MW ทำให้ประเมินโครงการนี้จะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 3.30 หมื่นล้านบาท และเป็นการลงทุนในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ซึ่งคาดจะใช้เงินกู้ราว 70-75%) โดยงบลงทุนในครั้งนี้ราว 6.10 พัน ล้านบาท จะนำไปใช้พัฒนาโครงการในช่วงเริ่มต้นก่อนการทำ Project Finance

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/2564 อยู่ที่ 331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 52% จากไตรมาสก่อน ทำให้โดยรวมประเมินกำไรทั้งปี 2564 อยู่ที่ 2,104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และคาดกำไรปี 2565 โตสูง 39% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 2,918 ล้านบาท

โดยในปี 2565 แม้มีโครงการ Solar farm ในไทยที่ Adder หมดลง 30 MW ในช่วง ก.ค.(คาดรายได้จาก Adder หายไปราว 200 ล้านบาท) แต่จะถูกกลบจากรายได้จาก Solar farm ใหม่ในญี่ปุ่นที่คาดเข้ามาเสริมรายได้เกือบ 1 พันล้านบาท (โรงไฟฟ้าใหม่ 3 โรง รวม 65 MW โดย COD ในเดือน พ.ย.2564 แล้ว 20 MW และคาดจะเริ่ม COD ในไตรมาส 1/2565 อีก 45 MW) และจากการเข้าลงทุนในโครงการแห่งใหม่อีกหลายโครงการซึ่งคาดเป็นโครงการที่พร้อมรับรู้รายได้ทันที (รวมในประมาณการแล้ว 1.80 หมื่นล้านบาท จากเป้าบริษัทปี 2565 อยู่ที่ 2.70-4.40 หมื่นล้านบาท)

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 19.60 บาท โดย BCPG ยังเป็นหุ้นในกลุ่ม Green Energy ที่ยัง Laggard โดยมีค่า PER ปี 2565 เพียง 12 เท่า เทียบค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ราว 25-30 เท่า

Back to top button