KBANK ปักธงปี 65 สินเชื่อโต 8%-ตั้งสำรองลด โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เป้า 166 บ.

KBANK วางเป้าปี 65 สินเชื่อโต 8%-ตั้งสำรองลด หนุนผลงานเด่น โบรกฯมองบวกผ่านสินเชื่อที่เติบโตขึ้น การตั้งสำรองที่ลดลง รวมทั้งคุณภาพสินเชื่อที่มีแนวโน้มดีขึ้น เชียร์ “ซื้อ” เป้า 166 บ.


บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ม.ค. 2565) โดยฝ่ายวิจัยได้เข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนวันนี้ ซึ่งทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นผ่านการเติบโตของสินเชื่อและแนวโน้มคุณภาพของสินเชื่อที่คงตัว ทั้งนี้ประเมิน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ว่า ธนาคารประมาณประมาณการสินเชื่อปี 2565 เติบโตในกรอบ 6-8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (ปีก่อนโต 7.90% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) โดยหลักๆคาดสัดส่วนการเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อนซึ่งเน้นสินเชื่อรายย่อย (เน้นการใช้บทวิเคราะห์ข้อมูลภายในและของ Partner ในการปล่อยสินเชื่อ) และคาดจะโฟกัสกับสิเชื่อ SME บางกลุ่ม Segmen รวมทั้งให้ความสำคัญกับสินเชื่อ Corporate แก่ลูกค้าที่ปฏิบัติตามหลัก ESG

โดยผุ้บริหารคาดสินเชื่อผ่าน Line BK ในปี 2565 จะอยู่ที่ 2.10 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 2566 จะอยู่ที่ 3.10 หมื่นล้านบาท และ ปี 2567 จะอยู่ที่ 5.00 หมื่นล้านบาท

อีกทั้งผู้บริหารคาด NIM ปี 2565 อยู่ในกรอบ 3.15-3.30% (ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 3.21%) โดยคาดการปล่อยสินเชื่อกลุ่ม High yield (สินเชื่อรายย่อย) และการควบคุมต้นทุนทางการเงินจะช่วยควบคุม NIM ให้ดีขึ้นรวมถึงชดเชยผลกระทบความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาด COVID-19

ขณะที่ Fee income growth ยังคงให้การเติบโตทรงตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฐานปีก่อนที่ค่อนข้างมากซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดทุน รวมทั้งค่าธรรมเนียมจากธุรกิจรายย่อยมีแนวโน้มหดตัวจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้า Cost/income ratio อยู่ที่  Low to mid 40% โดยทรงตัวจากปีก่อนที่ 43.50% (หลักๆมาจากการใช้ IT platform รวมทั้งการปิดสาขาเพิ่มเติมและการใช้ขนาดของธุรกิจในเครือในการต่อรองค่าใช้จ่ายกับคู่ค้า เพื่อชดเชยกับค่าใช้จ่ายในด้าน IT investment)

ส่วน Credit cost ตั้งเป้าที่ 160 bps (ต่ำจากปีก่อน 173 bps ในขณะที่ระดับ Credit cost ที่เหมาะสมหากสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลายควรอยู่ที่ 135-150 bps) ยังควบคุมอย่างระมัดระวัง ในขณะที่คาด NPL/Loan ratio อยู่ที่กรอบ 3.70-4.00% สะท้อนจากการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยยังคงมีมุมมองเชิงบวกกับ KBANK ผ่านสินเชื่อที่เติบโตขึ้น การตั้งสำรองที่ลดลง รวมทั้งคุณภาพสินเชื่อที่มีแนวโน้มดีขึ้น นอกจากนี้ทางฝ่ายวิจัยยังคาดมีอัพไซด์ต่อประมาณการของทางฝ่ายวิจัย หากธนาคารสามารถขยายสินเชื่อปีนี้ได้ตามเป้าที่กรอบ 6-8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งทางฝ่ายวิจัยประมาณการสินเชื่อปี 2565 โตที่ 4.30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 166 บาท

Back to top button