ลุ้น JWD กำไร Q4 ดีเกินคาด โบรกฯ ชู P/E ต่ำ ปรับกำไรปี 65-66 เพิ่ม

ลุ้น JWD โชว์ไตรมาส 4/64 กวาดกำไร 170 ลบ. ดีเกินคาด หลังบริษัทร่วมทุนทำผลงานโตแกร่ง โบรกฯ ชู P/E ต่ำ แนะนำ “ซื้อ” เคาะเป้า 23 บ. ปรับกำไรปี 65-66 เพิ่ม คาดรับส่วนแบ่งกำไรมากขึ้น


บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส หรือ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.พ.2565) เกี่ยวกับหุ้นบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ว่า ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/2564 ของ JWD ขึ้น 28% เป็น 170.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.3% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 124.3% เมื่อเทียบจากปีก่อน หลังจาก Transimex Corporation (โดย JWD ถือ 24.6%) รายงานผลกำไรไตรมาส 4/2564 ที่ก้าวกระโดด 102.5% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 213.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็น 278,769.4 ล้านดอง หรือประมาณ 408.3 ล้านบาท จากทั้งการเติบโตของรายได้ของบริษัทเองและโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมซึ่งน่าจะมาจาก Vinafreight ที่โตก้าวกระโดดตามการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขนส่งและค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูง ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 2564 ของ JWD น่าจะเป็น 565.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 7% และเติบโต 95% เมื่อเทียบจากปีก่อน (ส่วนกำไรปกติคาด 33.9% เมื่อเทียบจากปีก่อน)

นอกจากนั้นปรับเพิ่มกำไรของ JWD ปี 2565 ขึ้นเล็กน้อย 4.8% แต่คงประมาณการกำไรปี 2566 ทั้งนี้ ปรับเพิ่มส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมในปี 2565 ขึ้นเป็น 120 ล้านบาท บริษัทร่วมในต่างประเทศที่จะมีบทบาทสำคัญในปีนี้ได้แก่กิจการในเวียดนามและกัมพูชา เนื่องจากค่าระวางเรือแม้จะชะลอจากปี 2564 แต่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 (และคาดว่าจะชะลอสู่จุดสมดุลในปี 2566) ขณะเดียวกันคาดว่า PPSEZ บริษัทร่วมในกัมพูชาจะขายที่ดินได้จากที่ไม่สามารถขายที่ดินได้เลยในช่วง COVID-19

นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรดังกล่าวจะมาจากการการรับรู้เต็มปีของ ESCO (JWD ถือ 20%) ผู้ประกอบการท่าเรือคอนเทนเนอร์ในท่าเรือแหลมฉบัง ทั้งนี้ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่คาดในปี 2565-2566 ยังต่ำกว่าปี 2564 เชื่อว่าน่าจะ Conservative เพียงพอ ประมาณการที่ปรับใหม่ทำให้กำไรสุทธิปี 2565-2566 เพิ่มขึ้น 26.1% เมื่อเทียบจากปีก่อน (เดิมคาดเพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบจากปีก่อน) และเพิ่มขึ้น 15.3% เมื่อเทียบจากปีก่อน (เดิมคาดเพิ่มขึ้น 20.8% เมื่อเทียบจากปีก่อน)

ทั้งนี้กำไรที่ปรับเพิ่มขึ้นไม่มีผลต่อราคาเป้าหมายที่ประเมินด้วยวิธี DCF แต่ทำให้ PE ที่เคยอยู่ในระดับสูง 33-35 เท่า ลดลงเป็น 29.8 เท่าในปี 2565 และ 25.8 เท่าในปี 2566 ยิ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ 44 เท่า ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ EV/EBITDA เพียง 13.4 เท่าปี 2565 และ 13.0 เท่าปี 2566 ต่ำกว่าอัตราการเติบโตของ EBITDA ที่คาด 15.5% CAGR ในช่วงปี 2565-2567 ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น JWD คงราคาเป้าหมาย 23 บาท

Back to top button