“ดาวโจนส์” ดีดเฉียด 400 จุด คลายวิตกเงินเฟ้อ หลังราคาน้ำมันร่วงหนัก

“ดาวโจนส์” ดีดเฉียด 400 จุด สู่ระดับ 33,333.34 จุด คาดนักลงทุนคลายวิตกเงินเฟ้อ หลังราคาน้ำมันร่วงหนัก


ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานเกือบ 400 จุด ขณะที่นักลงทุนขานรับการดิ่งลงของราคาน้ำมัน ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ

โดย ณ เวลา 22.15 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,333.34 จุด บวก 389.15 จุด หรือ 1.18%

ทั้งนี้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ทำการปรับเวลาซื้อ-ขายหุ้นในตลาด โดยปรับเวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง เนื่องจากเข้าสู่ช่วง Daylight Saving Time โดยตลาดได้เปลี่ยนแปลงเวลาซื้อขาย จากเดิม 21:30-04:05 น. ตามเวลาไทย เป็น 20:30-03:05 น.ตามเวลาไทย ทั้งนี้การปรับเวลาตาม Daylight Saving Time ในสหรัฐปีนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม-6 พฤศจิกายน 2565

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ สอดคล้องกับการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีทะลุระดับ 2.09%

หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงสวนทางตลาด โดยได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างหนัก ล่าสุด สัญญาล่วงหน้า WTI หลุดระดับ 101 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์หลุดระดับ 105 ดอลลาร์

นักลงทุนจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนในวันนี้ รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มี.ค.2565 โดยนักลงทุนคาดหวังว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนจะประสบความคืบหน้าในวันนี้

อย่างไรก็ดี นายมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ระบุว่า การเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างยูเครนและรัสเซียในวันนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก

ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงจุดยืน แต่การเจรจาเป็นไปอย่างยากลำบาก อันเนื่องจากระบอบการเมืองที่แตกต่างกัน โดยยูเครนเป็นประเทศที่สังคมมีอิสระและตัดสินกันด้วยเสียงส่วนใหญ่ แต่รัสเซียเป็นสังคมที่มีการกดขี่ข่มเหงอย่างที่สุด” นายโปโดลยักระบุในทวิตเตอร์

ก่อนหน้านี้ นายโปโดลยักระบุว่าการเจรจาสันติภาพในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับการเรียกร้องให้รัสเซียทำการหยุดยิง และถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากยูเครน สำหรับการเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ในวันนี้เป็นการเจรจาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หลังจากที่การเจรจาทั้ง 3 รอบแบบพบหน้ากันก่อนหน้านี้ไม่ประสบความคืบหน้าแต่อย่างใด

นอกจากนั้นนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้

โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ ซึ่งไม่รุนแรงเหมือนกับที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าจะปรับขึ้น 0.50% ทั้งนี้หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ตามที่มีการคาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดนับตั้งแต่ปี 2561

Back to top button