ทำความรู้จัก “ซีพี เวียดนาม” น้องใหม่ตลาดหุ้นโฮจิมินห์

CPF ส่ง บ.ลูก “ซีพี เวียดนาม” เทรดตลาดหุ้นโฮจิมินห์ หลังผู้ถือหุ้นไฟเขียวระดมทุนขาย IPO หวังเงินต่อจอดธุรกิจอาหารสัตว์ เลี้ยงสัตว์ และอาหารแปรรูป


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ C.P. Vietnam Corporation (CPV) ซึ่งดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมอาหารครบวงจรในประเทศเวียดนาม ดำเนินการยื่นขอกระจายหุ้นสามัญให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อย เพื่อแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและดำเนินการกระจายหุ้นเสร็จสมบูรณ์ CPV จะดำเนินการขอจดทะเบียนเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ประเทศเวียดนามในลำดับถัดไป

สำหรับ ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ เลี้ยงสัตว์ และอาหารแปรรูป ซึ่งมีกิจการตั้งอยู่ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งปัจจุบัน CPF ถือหุ้นอยู่ใน ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด สัดส่วน 66.18% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

อนึ่ง CPF เข้าไปลงทุนใน ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตั้งแต่ปี 2531 โดยมองว่า ตลาดเวียดนามยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก และมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีปริมาณประชากรมากกว่า 90 ล้านคน สูงเป็นอันดับ 3 ในประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียน และมีความพร้อมในด้านปัจจัยพื้นฐานต่างๆ

โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา ซี.พี.เวียดนาม มียอดขายรวมประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 64,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากปีก่อนหน้า รายได้ส่วนใหญ่ร้อยละ 95 มาจากตลาดในเวียดนาม ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการส่งออก สำหรับในปี 2558 รายได้โตขึ้นร้อยละ 15

จากข้อมูลโครงสร้างรายได้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ระบุชัดว่า ส่วนของรายได้จากประเทศเวียดนามเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562-2564 โดยในปี 2562 มีรายได้รวม 85,390 ล้านบาท แยกเป็นรายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์จำนวน 27,552 ล้านบาท, รายได้จากธุรกิจเลี้ยงสัตว์และแปรรูปจำนวน 54,759 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจอาหารจำนวน 3,079 ล้านบาท

ต่อมาในปี 2563 มีรายได้รวม 107,793 ล้านบาท  แยกเป็นรายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์จำนวน 28,043 ล้านบาท, รายได้จากธุรกิจเลี้ยงสัตว์และแปรรูปจำนวน 75,181 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจอาหารจำนวน 4,569 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 2564 มีรายได้รวม 111,111 ล้านบาท แยกเป็นรายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์จำนวน 33,066 ล้านบาท, รายได้จากธุรกิจเลี้ยงสัตว์และแปรรูปจำนวน 72,209 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจอาหารจำนวน 5,836 ล้านบาท

ทั้งนี้ เชื่อว่า ในปี 2565 ตลาดของเวียดนามกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากปัจจัยการฟื้นตัวภายในประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19คลี่คลาย จึงทำให้มีผู้ผลิตเข้ามาแข่งในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เลี้ยงสัตว์ และอาหารแปรรูปเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  จึงเป็นโอกาสของ ซีพี เวียดนาม ขยายโอกาสทางธุรกิจ ผ่านการระดมทุน ผ่านการยื่นขอกระจายหุ้นสามัญให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยเพื่อแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน  พร้อมเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป (IPO)  ในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ประเทศเวียดนามในลำดับถัดไป

Back to top button