JAS คาดผลงานปี 66 ฟื้นแกร่ง เดินหน้าคุมค่าใช้จ่าย-หารายได้ธุรกิจอื่นหนุน

JAS รับปีนี้ยังขาดทุน พร้อมเดินหน้าหารายได้เพิ่มในพอร์ตอื่น - ปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อเนื่อง คาดรายได้ปีนี้โตราว 7-10% ขณะที่ปี 65 คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน


นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 65 ยังน่าจะขาดทุนสุทธิต่อจากปีก่อนหน้าที่มีผลขาดทุนสุทธิ 1,500 ล้านบาท แต่บริษัทยังเดินหน้าแผนปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องจากปี 64 ที่สามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้กว่า 700  ล้านบาท

ขณะที่คาดว่าในปี 66 ผลประกอบการน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างชัดเจน

พร้อมกันนั้น บริษัทพยายามหารายได้เพิ่มในพอร์ตอื่น จากบริษัทในกลุ่ม คือ บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ที่มาจากธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ นอกเหนือจากรายได้จากธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) ที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทสัดส่วนราว 93% ซึ่งคาดว่าจะลดสัดส่วนลงไปในอนาคต หลังจากรายได้ธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ของ JTS เติบโตได้ตามแผน รวมทั้งบริษัทยังได้เพิ่มรายได้จากอินเตอร์เน็ตทีวีที่ต่อยอดจากธุรกิจ Broadband

นายสุพจน์ กล่าวว่า ในส่วนรายได้รวมของบริษัท คาดว่าในปี 65 จะเติบโต 7-10% จากปี 64 ที่มีรายได้รวม 20,371 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปีนี้จะมีรายได้ที่ไม่ใช่ธุรกิจ Broadband เพิ่มเป็น 2,300 ล้านบาท

อนึ่ง สิ้นปี 64 มีจำนวนผู้ใช้บริการ Broadband รวม 3.65 ล้านราย โดยมีผู้ใช้บริการสำหรับลูกค้าทั่วไปที่เป็น Fixed Broadband และที่สามารถเก็บเงินได้ประมาณ 2.43 ล้านราย

ทั้งนี้ แนวโน้มธุรกิจ Broadband ยังคงมีการแข่งขันราคาต่อเนื่อง แต่ลูกค้ามีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยในปีนี้บริษัทจะเสริมอินเตอร์เน็ตทีวีเพิ่มขึ้น จากที่มีพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมมากขึ้น โดยเฉพาะ Streaming content  และขณะนี้ก็ยังเจรจาพาร์ทเนอร์รายใหม่อีกหลายราย

ส่วนธุรกิจอินเตอร์เน็ตโมบาย ที่เดิมร่วมมือกับ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ก็จะมีรูปแบบอื่นๆ ออกมา รวมทั้งยังมีธุรกิจกล้องวงจรปิดที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปลายไตรมาส 2/65 หรือไตรมาส 3/65 และธุรกิจเกี่ยวกับ IoT ที่ต่อยอดจากธุรกิจ Broadband เพื่อรักษาลูกค้าเดิมและเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ด้วย

อนึ่ง ในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น JAS วันนี้ได้มีมติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท วงเงินรวมไม่เกิน 8,000 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระหนี้คงค้างที่ปัจจุบันบริษัท และ/หรือบริษัทในกลุ่มมีอยู่กับสถาบันการเงิน และเพื่อใช้ในการลงทุน การขยายธุรกิจ ตลอดจนเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

Back to top button