D ปักธงรายได้ปีนี้โต 25% หลัง Q1 พลิกกำไร 8 ลบ. ธุรกิจทันตกรรมหนุน

D ปักธงรายได้ปีนี้โต 25% หลังไตรมาส 1 พลิกกำไร 8 ลบ. โต 530% งานทันตกรรมดันรายได้ลูกค้าไทย-ต่างชาติพุ่ง มั่นใจสถานการณ์คลี่คลายงานบริการด้านทันกรรมโตต่อเนื่อง   


ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัลคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D กล่าวถึงผลการดำเนินงาน ของบริษัทงวดไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2565 บริษัทมีผลกำไรสุทธิ จำนวน 7.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 530% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุน 1.9 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 166.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากงวดไตรมาส 1/2564 คิดเป็น 17% ซึ่งรายได้หลักมาจากการให้บริการด้านทันตกรรมจำนวน 111.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.2 ล้านบาทหรือ 27% และมีรายได้จากการขายอีก 55.2 ล้านบาท

โดยผลประกอบการของบริษัทที่ปรับตัวไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากการให้บริการด้านทันตกรรม มีการเติบโตของรายได้สูงขึ้น ทั้งในส่วนของลูกค้าคนไทยและลูกค้าต่างชาติ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ประเทศไทยเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ มีการเดินทางท่องเที่ยวจากต่างชาติภายใต้มาตรการ Test&Go ส่วนลูกค้าคนไทย เริ่มคลายความกังวลจากสถานการณ์โรคระบาด เพราะประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว

อย่างไรก็ตามตั้งแต่ต้นปี 2565 ธุรกิจให้บริการด้านทันตกรรมในกลุ่มบริษัท ได้มีการเปิดให้บริการตามปกติ และยังคงเข้มงวดในมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้มาใช้บริการ ในส่วนของรายได้จากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในไตรมาส 1/2565 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนบริษัทมีรายได้จากลูกค้าต่างชาติในจำนวน 43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80% ลูกค้าคนไทยใน จำนวน 66.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%

“รายได้ของบริษัท ไตรมาส 1 ปีนี้ เริ่มกลับมาดีขึ้น ลูกค้ากลับเข้ามาใช้บริการด้านทันตกรรมกับกลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่อง จำนวนเฉลี่ยเข้าใช้บริการในไตรสมาสนี้ 17,000 ครั้ง ลูกค้าคนไทยหลังได้วัคซีนครบ 2 เข็ม เริ่มคลายความกังวล ส่วนลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาในประเทศสะดวกขึ้น ภายใต้มาตรการ Test&Go เมื่อสถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้นเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ งานให้บริการทันตกรรมก็จะได้รับผลดีไปด้วย” ทพ.พรศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้บริษัทคาดการณ์ว่าหลังจากรัฐบาลประกาศให้ โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นในต้นเดือน ก.ค. 2565 จะทำให้มีการผ่อนคลายตามมาตรการต่างๆ มากขึ้น และนักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจการให้บริการด้านทันกรรมของบริษัท และคาดว่าจะสามารถทำให้รายได้ของบริษัทในปี 2565 เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่ที่ 25%

Back to top button