คัด 5 หุ้นน่าลงทุน รับปัจจัยบวก “เงินเฟ้อ-เปิดปท.”

คัด 5 หุ้นน่าลงทุน ไตรมาส 2-3/65 ได้แก่ MINT, BEM, GFPT, TOP และ BE8 รับปัจจัยบวกเงินเฟ้อ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลกและไทยฟื้น และเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี คือ กลุ่มสื่อสาร


บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ภาพรวมกำไรปกติไตรมาส 1/2565 ของผู้ประกอบการใน SET ยังเป็นช่วงการฟื้นตัวต่อ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายวันในไตรมาสนี้เร่งขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์ Omicron แต่ไม่สร้างแรงกดดันต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวมากเหมือนรอบก่อนๆ เพราะไทยมีอัตราการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มประมาณ 80% ของประชากรรวม ประกอบกับการผ่อนคลายการเดินทางสำหรับชาวต่างชาติ และมาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการช็อปดีมีคืน, คนละครึ่ง, เราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น ทำให้กำไรปกติกลุ่มที่เกี่ยวข้องยังคงโตสูงจากงวดเดียวกันของปีก่อนมากกว่ากลุ่มอื่น

นำโดย กลุ่มการแพทย์ เพิ่มขึ้น 351% จากงวดเดียวกันของปีก่อน, กลุ่มค้าปลีก เพิ่มขึ้น 30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และกลุ่มธนาคาร เพิ่มขึ้น 13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มที่มีกำไรผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 1/2565 ได้แก่ เกษตรและอาหาร, เครื่องดื่ม, ร้านอาหาร, การบิน, เงินทุนและหลักทรัพย์, โรงแรม, ขนส่งมวลชน, มีเดีย, สื่อสาร (Mobile และ Non mobile) และรับเหมาก่อสร้าง ส่วนกลุ่มที่ฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรม, ชิ้นส่วนยานยนต์, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, โรงไฟฟ้า, ค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่กลุ่มที่กาไรผ่านจุดสูงสุดแล้วใน 1Q22 ได้แก่ ธนาคาร, โรงพยาบาล และพลังงาน

สำหรับสถานการณ์ในไตรมาส 2/2565 คาดเห็นการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวดีขึ้นต่อตามกระแสเปิดเมือง, ยกเลิกมาตรการ Test and go ตั้งแต่พ.ค. และเริ่มให้โรงเรียนเปิดสอน on-site เต็มรูปแบบตั้งแต่กลาง พ.ค. สอดคล้องกับการเตรียมประกาศโควิดเป็นโรคประจาถิ่นเดือน ก.ค. อย่างไรก็ตามด้านต้นทุนคาดจะเห็นแรงกดดันมากขึ้นจากเงินเฟ้อและทิศทางดอกเบี้ยโลกขาขึ้น ทาให้ต้นทุนการผลิตและนาเข้าในหลายอุตสาหกรรมจะเร่งตัว อีกทั้งอาจมีประเด็นการพิจารณาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกดดันความสามารถในการกำไรบางกลุ่มจะอ่อนตัวจากไตรมาสก่อน ทั้งนี้คาด 7 ใน 20 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ทางฝ่ายวิจัยศึกษาจะรายงานกำไรปกติลดลงจากไตรมาส 1/2565

อย่างไรก็ดีการลงทุนในไตรมาส 2-3/2565 ทางฝ่ายวิจัยยังคงให้น้ำหนัก 1.กลุ่มได้ผลบวกโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลกและไทย คือ พลังงาน (เน้นโรงกลั่น), ท่องเที่ยว และขนส่งมวลชน 2.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อสูงขึ้น คือ เกษตรและอาหาร (เฉพาะเนื้อสัตว์) และ 3.กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี คือ กลุ่มสื่อสาร

ทั้งนี้หุ้นท็อปพิคที่ทางฝ่ายวิจัยเลือกสำหรับลงทุนในไตรมาส 2-3/2565 ได้แก่ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM, บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และ บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8

Back to top button