“บล.พาย” แนะสอย 11 หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ ชู SCGP-CBG กำไรไตรมาส 2 แกร่ง!

“บล.พาย” ประเมินกรอบสัปดาห์นี้ 1560-1585 จุด พร้อมแนะลงทุน 11 หุ้นเด่น ชู SCGP-CBG กำไรไตรมาส 2/65 ปรับตัวดีขึ้น หลังคลายล็อกดาวน์


บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ Pi  ระบุในบทวิเคราะห์ (27 มิ.ย.65) ว่าทางฝ่ายวิจัยประเมินหลังวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นแรง 2.68% ตลาดผ่อนคลายกับภาวะดอกเบี้ยหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอประกอบกับช่วงที่ผ่านมาราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายๆ อย่างปรับลงช่วยคลายกังวลภาวะเงินเฟ้อ (น้ำมัน ถ่านหิน)

โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศออกมาในวันศุกร์ได้แก่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนออกมาที่ 50 ต่ำกว่าตลาดประเมินที่ 50.2 ขณะเดียวกันได้ประกาศดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ 53.8 ต่ำกว่าตลาดประเมินที่ 55.4 และต่ำสุดในรอบ 12 ปี

อย่างไรก็ตามสหรัฐรายงานยอดขายบ้านมือหนึ่งที่ 6.96 แสนหลังคาเรือนดีกว่าตลาดประเมินที่ 5.9 แสนหลังคาเรือน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT กลับมาปิดบวก 2.8% หลังมีรายงานออกมาว่ากำลังการผลิตบางส่วนจากลิเบียได้หายไป เนื่องจากมีการประท้วงทางการเมืองเพิ่มขึ้นระยะสั้นเป็นบวกต่อกลุ่มน้ำมัน ได้แก่ PTTEP

สำหรับสัปดาห์นี้ปัจจัยหลักจะเน้นไปที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ (1) การรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CB) ในวันอังคาร Bloomberg ประเมินที่ 100 จุด (2) การรายงานดัชนี PCE สำหรับเดือน พ.ค.ในคืนพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย Bloomberg คาดการณ์ที่ 6.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน , 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และ Core PCE (ดัชนีราคาที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน) 4.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน , 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หากประกาศออกมาแล้วต่ำกว่าตลาดคาดหมายไว้จะเป็นบวกกับบรรยากาศการลงทุน (3) การรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในวันศุกร์ Bloomberg ประเมินที่ 54.7 สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐทั้งหมดประเมินว่าต่ำกว่าคาดจะดีกว่าเพราะหากเร่งแรงกว่าคาดตลาดจะกลับมากังวลกับเงินเฟ้อ

ส่วนปัจจัยภายในจะมีการรายงานการค้าระหว่างประเทศ Bloomberg คาดการณ์มูลค่าส่งออกจะขยายตัว 8.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และนำเข้าขยายตัว 17.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน พร้อมประเมินดุลการค้าจะขาดดุล 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐมองเป็นลบต่อค่าเงินบาทที่ยังคงแนวโน้มอ่อนค่า

รวมถึงมีโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะขายต่อเนื่อง ทิศทาง SET INDEX สัปดาห์นี้ยังประเมินว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดปรับลงมาสะท้อนความกังวลทั้งเงินเฟ้อและดอกเบี้ยไปสมควร สะท้อนจากการปรับลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี และอายุ 10 ปี ส่วนปัจจัยที่จะมีผลอย่างมีนัยยะสำคัญของตลาดจะอยู่ช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.ค. (เงินเฟ้อ CPI) เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังชอบหุ้นโรงไฟฟ้า ได้แก่ BGRIM, GULF, GPSC, RATCH หนุนจากราคาแก๊สและ US Bond Yield ปรับลงรวมถึงหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะ SCGP นอกจากนี้ยังแนะกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ BJC, CPALL รวมถึงท่องเที่ยวได้แก่ AOT, CENTEL, ERW, MINT, ประเมินกรอบสัปดาห์นี้ 1560-1585 จุด

สำหรับ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 66 บาท คาดกำไรปรับดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป หนุนจากการคลายล็อกดาวน์ที่จะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ ราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้นในสภาวะต้นทุนที่สูงขึ้นและกำลังการผลิตใหม่ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากค่าขนส่งที่ลดลง

ขณะที่ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 125.00 บาท คาดกำไรจะปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนในทุกไตรมาสของปี 2565 ด้วยแรงกระตุ้นจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 รายการ มาจากการเติบโตของรายได้การจัดจำหน่ายสุราที่แข็งแกร่ง การปรับราคาขายส่ง 1-3% ปริมาณขายเครื่องดื่มชูกำลังที่เพิ่มสูงขึ้นในไทย และยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นใน CLMV (กลุ่มอาเซียนในเขตภูมิภาคลุ่มน้ำโขง) และจีน

Back to top button