“บล.พาย” แนะสอย PTTEP เป้า 179 บ. ฟันธงกำไร Q2/65 โตเด่นรับ “น้ำมัน” พุ่ง

“บล.พาย” วางกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,545-1,575 แนะเกาะติด “เงินเฟ้อ” สหรัฐ พร้อมชู PTTEP เด่น เคาะเป้า 179 บ. ฟันธงกำไร Q2 โตเด่นรับ “น้ำมัน” พุ่ง


บล.พาย จำกัด (Pi) ประเมินกรอบดัชนีทั้งสัปดาห์ 1,545-1,575 จุด คาดช่วงต้นสัปดาห์ จันทร์-พุธ จะเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดเพื่อรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯประจำเดือน มิ.ย. ที่มีกำหนดรายงานช่วงวันพุธกลางคืนตามเวลาประเทศไทยเบื้องต้น Bloomberg Consensus คาด CPI ขยายตัว +8.8% จากปีก่อน +1.1% จากเดือนก่อน สูงกว่าเดือน พ.ค. ที่ +8.6% จากปีก่อน, +1% จากเดือนก่อน

ทั้งนี้ คาดว่าเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศออกมามีผลทรงตัวหรือเป็นบวกกับตลาดหุ้นมากกว่าจะเป็นลบด้วยเหตุผล 1) เชื่อว่าเงินเฟ้อสหรัฐที่จะออกมามีโอกาสเป็นไปตามตลาดคาดหรืออาจน้อยกว่าคาด เนื่องจากตลาดได้คาดไว้ค่อนข้างสูงแล้ว (8.8%) สูงกว่าครั้งก่อนที่ 8.6%

ขณะที่ราคาน้ำมันในเดือน มิ.ย.เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนพบว่าขยายตัว 60.2% จากปีก่อน หากเทียบกับเดือน พ.ค. พบว่าขยายตัวถึง 64% จากปีก่อน ซึ่งจะเห็นว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในเดือน มิ.ย. ขยายตัวต่ำกว่า พ.ค. (โอกาสที่เงินเฟ้อจะร้อนแรงกว่าตลาดคาดจึงมีความเป็นไปได้น้อย) ขณะที่ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบ BRT ลดลงมาอยู่ที่ 107 ดอลลาร์สหรัฐ / บาร์เรล (-9% จากเดือนก่อน) เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน ก.ค. จะเห็นการลดลงจากเดือนก่อน

2) ตลาดประเมินดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สิ้นเดือนนี้ปรับขึ้น 0.75% (ใกล้เคียงกับการขึ้นครั้งก่อนที่เงินเฟ้อสหรัฐออกมา 8.6%) ดังนั้น หากตลาดหุ้นจะปรับฐานต้องเกิดจากกรณีที่ตลาดปรับมุมมองดอกเบี้ยขึ้นเป็น 1% แต่มุมมองของตลาดจะขึ้นกับเงินเฟ้อซึ่งเชื่อว่าไม่น่าร้อนแรงมาก ถัดมาจะเป็น PPI ประกาศช่วงพฤหัสบดีกลางคืนตามเวลาประเทศไทย Bloomberg คาด 10.7% จากปีก่อน 0.8% จากเดือนก่อน และสุดท้ายจะเป็นยอดค้าปลีกสหรัฐในวันศุกร์ Bloomberg ประเมิน 0.9% จากเดือนก่อน เชื่อว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าตลาดคาดจะเป็นบวกกับการลงทุนมากกว่า

ขณะที่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรพบว่าอยู่ที่ 3.72 แสนตำแหน่ง ดีกว่าตลาดคาดที่ 2.6 แสนตำแหน่ง พร้อมกับอัตราการว่างงานที่ 3.6% และค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงขยายตัว 0.3% จากเดือนก่อน ถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดประเมินไว้ มีเพียงการจ้างงานที่ดีกว่าตลาดคาด

ด้านตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดลบเพียง 0.15% คาดกังวลกับแนวโน้มดอกเบี้ยเล็กน้อยหลังภาคแรงงานแข็งแกร่งกว่าตลาดประเมิน ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปีปรับขึ้นเล็กน้อย แต่มีจุดน่าสังเกตคือ VIX INDEX ลดลงต่อเนื่องสะท้อนความกังวลของตลาดในภาพรวมที่ลดลง ส่วนราคาน้ำมันดิบพลิกกลับมาบวก 2.3% หนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯหลังเปิดเผยการจ้างงานที่มากกว่าตลาดประเมินไว้ ระยะสั้นเป็นบวกต่อกลุ่มน้ำมัน (PTTEP)

ดังนั้น เชิงกลยุทธ์การลงทุนระยะสัปดาห์แนะ PTTEP ค้าปลีก (BJC, CPALL, HMPRO) โรงพยาบาล (BCH, CHG) สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 179.00 บาท) ภาพรวมไตรมาส 2/65 เป็นบวกเพราะคาดว่ากำไรสุทธิจะโตขึ้นทั้งจากปีก่อน และไตรมาสก่อนประเมินว่าการเริ่มผลิตก๊าซจากโครงการ G1/61 และ G2/61 (ประเทศไทย) จะช่วยหนุนการเติบโตของยอดขายได้ 10% ส่วนราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจเข้ามาช่วยกระตุ้นราคาขายเฉลี่ยขึ้น

HMPRO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท) คาดกำไรไตรมาส 2/65 เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนและทรงตัวจากไตรมาสก่อน หนุนจากอุปสงค์ต่อเครื่องปรับอากาศและกิจกรรมส่งเสริมการขาย (งาน Homepro Super Expo) บวกกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้นตามอัตราการฉีดวัคซีนปรับสูงขึ้น

Back to top button