ครม.ไฟเขียว! ลดค่าฟี “โอน-จำนอง” เหลือ 0.01% ถึงปี 68

ครม.มีมติอนุมัติลดหย่อนค่าธรรมเนียม “โอน-จำนอง” อสังหาริมทรัพย์ เหลือ 0.01% ถึง 7 มิ.ย.68 ภายใต้การดูแลของ บจธ. เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน และเป็นการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรม


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอน และการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. ซึ่งเป็นไปตามนโยบายกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรมและยั่งยืนของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน และเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดินที่เหมาะสม

โดย บจธ.ได้ดำเนินงานผ่าน 2 โครงการ คือ โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน และโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน ส่วนสาระสำคัญของร่างประกาศฯ ดังกล่าวเป็นการลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของ บจธ.เกี่ยวกับค่าจดทะเบียนการโอน และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จากอัตรา 2% และ 1% เหลืออัตรา 0.01% ตามราคาประเมินทุนทรัพย์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ถึงวันที่ 7 มิ.ย.68

“การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมตามภารกิจของ บจธ.ในปีงบประมาณ 2565-2568 คาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ประมาณหลายหมื่นล้านบาท แต่จะเป็นโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยลดค่าใช้จ่ายการจดทะเบียนและการทำนิติกรรมของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรม และยั่งยืนแก่ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล” น.ส.รัชดา กล่าว

สำหรับ บจธ.จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 เพื่อทำหน้าที่กระจายการถือครองที่ดินให้ประชาชนอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน โดยมีเป้าประสงค์ช่วยให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้ใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างทั่วถึง และรัฐสามารถนำที่ดินที่ไม่มีการใช้ประโยชน์มาบริหารจัดการให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา สามารถกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืนให้แก่เกษตรกรและผู้ยากจนได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสม รวมเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ สามารถแก้ปัญหาที่ดินของเกษตรกรที่หลุดการจำนองและการฝากขายได้กว่า 3,000 ไร่ รวมถึงสนับสนุนให้ชุมชนจัดการที่ดินร่วมกัน ทั้งที่ดินทำกิน และที่ดินอยู่อาศัยในรูปแบบโฉนดชุมชนด้วย

Back to top button