CHIC ลุยเทรด 27 ก.ค.นี้ ระดมทุน 300 ลบ. ขยายธุรกิจ-ปรับปรุงสาขา

CHIC ปักหมุดเทรด mai วันที่ 27 ก.ค.65 คาดรับเงินระดมทุน 308.74 ล้านบาท รองรับการขยายสาขาใหม่ ปรับปรุงพื้นที่และขยายพื้นที่เช่าร้านค้า และคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 117 ล้านบาท รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท


บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ 0.90 บาท/หุ้น โดยมีจำนวนหุ้น IPO ที่เสนอขายในครั้งนี้ 360 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 26.47% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังเสนอขาย IPO และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ (Service) หมวดธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) ในวันที่ 27 ก.ค. โดยมี บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้ ราคาหุ้น IPO ที่หุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) เท่ากับ 31.69 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิที่ 0.0284 บาทต่อหุ้น ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64-31 มี.ค.65 ที่จำนวน 28.43 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ ก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ 1,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท (Pre-IPO Dilution)

และคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) เท่ากับ 43.06 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิที่ 0.0209 บาทต่อหุ้น หากพิจารณากำไรสุทธิต่อหุ้นที่คำนวณจากจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ 1,360 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท (Post-IPO Dilution)

โดยการเสนอขาย IPO ของ CHIC ในครั้งนี้ได้กำหนดเปิดให้จองซื้อในวันที่ 18-20 ก.ค. 65 และ 21 ก.ค. 65 ผ่านช่องทางของผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม ได้แก่ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล.เอเซีย พลัส บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และช่องทางของผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้แก่ บล.เคทีบีเอสที และบล.กรุงศรี

สำหรับเงินระดมทุนจาก IPO ในครั้งนี้คาดว่าจะได้รับราว 308.74 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายสาขาใหม่ 60 ล้านบาท การปรับปรุงพื้นที่และขยายพื้นที่เช่าร้านค้า 38 ล้านบาท และคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 117 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 93.74 ล้านบาท จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

การกำหนดราคา IPO ดังกล่าว ถือเป็นระดับราคาเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน และสอดคล้องกับสภาวะตลาดปัจจุบัน คาดว่า CHIC จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ทั้งโอกาสการเติบโตของธุรกิจ และมีความพร้อมในการขยายธุรกิจรองรับการเติบโตในอนาคต” นายธีร์ กล่าว

นางยอดฤดี สันตติกุล กรรมการบริหาร บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า CHIC เป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ผู้บริหารและทีมงานมีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์มายาวนาน เข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หลากหลาย โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ อีกทั้งได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศ การระดมทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพและขยายธุรกิจ รองรับความต้องการของตลาดที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จะช่วยเสริมการเติบโตได้ในอนาคต

นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า CHIC มีศักยภาพเติบโต ตามความต้องการใช้เฟอร์นิเจอร์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้ง จุดแข็งของบริษัทที่มีนโยบายบริหารจัดการต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการผลิต กำหนดราคาสินค้าที่เหมาะสม สามารถสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน อีกทั้งความสามารถด้านการเงิน ของบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ซึ่งหลังจากการระดมทุนครั้งนี้ จะส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น เนื่องจากสัดส่วนหนี้สินต่อทุนลดลง

นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ CHIC เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ไปใช้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ พัฒนาเว็บไซต์ของบริษัทเพิ่มเติม สำหรับการขายแบบ E-Commerce ในประเทศและกัมพูชา เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงพื้นที่บางสาขาในประเทศและขยายพื้นที่ให้เช่า สร้างแหล่งที่มาของรายได้ประจำ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันทางการเงิน เพิ่มสภาพคล่องด้านการเงินของบริษัท

“เชื่อมั่นว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาด mai จะช่วยเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งในการขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาที่เปิดดำเนินการแล้วรวม 6 สาขา โดยแบ่งเป็น 5 สาขาในประเทศ ได้แก่ สาขาประดิษฐ์มนูธรรม พัทยา บางนา ราชพฤกษ์ และรามอินทรา และ 1 สาขาในต่างประเทศ ได้แก่ สาขากัมพูชา โดยมีแผนเตรียมขยายสาขาในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง รวมถึงเป็นฐานการจำหน่ายและการกระจายสินค้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศลาว เป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าของบริษัทในอนาคต” นายกิจจา กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสในการเพิ่มรายได้ จากการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ธุรกิจงานโครงการมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีกระแสตอบรับที่ดีจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้งแนวราบ-แนวสูง เตรียมขยายฐานลูกค้าโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โรงแรม โรงพยาบาล เพิ่มยอดขายและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น

รวมถึงขยายบริการ “Chic Design Studio” ให้บริการออกแบบและตกแต่งภายในแบบครบวงจร ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ รวมถึงธุรกิจให้เช่าและรับจัดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ภายใต้ชื่อ “Chic Rent In Style” รองรับความต้องการลูกค้ากลุ่มบริษัทรับออกแบบ-ตกแต่ง บริษัทรับจัดงาน Event ต่าง และเจ้าของบ้าน ควบคู่กับการพัฒนาช่องทางจำหน่ายออนไลน์ ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง สนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัท และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

Back to top button