ลุยสอบ! นักบิน NOK เหตุไม่อพยพ “ผู้โดยสาร” ภายใน 90 วินาทีหลังเครื่องไถล

กพท. เตรียมสอบนักบิน “NOK” หลังลื่นไถลออกนอกรันเวย์แล้วไม่อพยพผู้โดยสารภายใน 90 วินาที ตามมาตรฐานไอเคโอ พร้อมตรวจสอบมาตรการดูแลผู้โดยสารครบถ้วนหรือไม่


นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ กพท. อยู่ระหว่างการเชิญนักบินของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เที่ยวบินที่ DD108 เส้นทาง กรุงเทพ(ดอนเมือง)-เชียงราย ที่ลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง(รันเวย์) มาสอบสวน เกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดของคู่มือปฏิบัติงามเมื่ออากาศยานเกิดอุบัติการณ์ ซึ่งตามข้อกำหนดในคู่มือปฏิบัติงานตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) และ กพท. นั้น เมื่อเกิดอุบัติการณ์ หรือเหตุฉุกเฉินต้องดำเนินการอพยพผู้โดยสายภายใน 90 วินาที หรือน้อยกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเกิดอุบัติการณ์ หรือเหตุฉุกเฉินแล้วต้องอพยพในทันที เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

นายสุทธิพงศ์ อธิบายว่า การอพยพผู้โดยสารภายใน 90 วินาทีนั้น จุดเริ่มต้นของภายใน 90 วินาที จะมาจากการพิจารณาสภาพแวดล้อมต่างๆ และการตัดสินใจของนักบิน โดยจะประเมินสถานการณ์ภายนอกว่าขณะนั้นสมควรสั่งอพยพผู้โดยสารหรือไม่ ซึ่งเมื่อสั่งให้อพยพจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วินาที ซึ่งเป็นมาตรฐานการปฏิบัติที่นักบิน และลูกเรือขอทุกสายการบิน ต้องมีการฝึกอบรม และทบทวนทุกๆ 12 เดือนอยู่แล้ว สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ที่นักบินให้ผู้โดยสารรออยู่บนเครื่องบิน โดยไม่สั่งอพยพในทันทีนั้น ทาง กพท. จะยังคงไม่ตัดสินในเวลานี้ว่าเป็นการกระทำที่เหมาะควรมากน้อยแค่ไหน อย่างไรขอสอบสวนนักบินก่อนว่าสาเหตุ และวิธีที่นำมาใช้ประกอบการตัดสินใจเป็นอย่างไร

ทั้งนี้สิ่งที่พบเห็นเบื้องต้น คาดว่า สภาพแวดล้อมอาจเป็นปัจจัยประกอบการพิจารณาของนักบินที่ไม่ได้สั่งให้อพยพผู้โดยสารภายใน 90 วินาที ได้แก่ 1.รถดับเพลิงของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มาถึงที่เกิดเหตุในระยะเวลา 1 นาที ซึ่งถือว่าทำได้ดีมาก เพราะมาตรฐานกำหนดไว้ต้องมาถึงไม่เกิน 2 นาที อีกทั้งนักบินประเมินแล้วว่าไม่น่าจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ หรือมีควันในอากาศยาน ที่สำคัญมีรถดับเพลิงมาจอดรออยู่แล้ว จึงเป็นประเด็นหนึ่งที่เป็นปัจจัยประกอบการตัดสินใจไม่ได้อพยพผู้โดยสาร

และ 2.ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงฯ ปกติใช้สะพานเทียบเครื่องบิน ไม่ได้มีลักษณะของการลงจากเครื่องและใช้รถบัสมารับเหมือนบางสนามบิน ดังนั้นความพร้อมในเรื่องของรถบัสจึงไม่มี แต่จะมีรถตู้ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 10 คน ประกอบกับสภาพแวดล้อมในขณะนั้นมีฝนตกด้วย จึงอาจตัดสินใจให้ผู้โดยสารรออยู่บนเครื่องก่อน อย่างไรก็ตามปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ประกอบการตัดสินใจของนักบินนั้น คงต้องรอฟังคำชี้แจงจากนักบินอีกครั้ง ถ้าจะให้ตัดสินไปก่อนว่านักบินทำถูกต้องหรือไม่ถูกต้องจะไม่เป็นธรรมกับนักบิน

สำหรับเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ เป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างรุนแรง และผู้โดยสารที่เดินทางได้รับผลกระทบทั้งด้านจิตใจ ความกังวล และไม่ได้รับความไม่สะดวกสบาย อย่างไรก็ตามหากนักบินตัดสินใจสั่งอพยพผู้โดยสารออกมาในทันที ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องเสียงร้องเรียนจากผู้โดยสารที่ต้องทนอึดอัดอยู่บนเครื่องบิน ขณะเดียวกันหากสั่งอพยพแต่ไม่มีรถมารับผู้โดยสารออกไปในเวลานั้นก็อาจเป็นปัญหาอีกด้านหนึ่งเช่นกัน คงต้องพิจารณาชั่งน้ำหนักว่าในขณะนั้นเหตุใดนักบินจึงต้องใช้วิธีให้ผู้โดยสารรอบนเครื่อง ขอเวลาสอบสวนก่อน

ส่วนกรณีที่ระบุว่าผู้โดยสารห้ามลงมาเดินที่รันเวย์นั้น นายสุทธิพงษ์ ชี้แจงว่า หากเป็นกรณีปกติจะไม่อนุญาตให้มีการเดินอยู่บนรันเวย์ แต่ในกรณีฉุกเฉินที่อาจต้องอพยพสามารถเดินบนรันเวย์ได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของการดูแลรับผิดชอบผู้โดยสารนั้นตามระเบียบของ กพท. สายการบินมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบดูแลผู้โดยสารให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ต้องอำนวยความสะดวกในทุกด้าน ทั้งการเดินทาง ที่พัก และอาหารเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ กพท. อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าดำเนินการอะไรบ้าง และที่ดำเนินการไม่ครบเกิดจากปัญหาอะไร

Back to top button