TGE เทรดวันแรก! ลุ้นวิ่งเหนือไอพีโอ 2 บ. รับพื้นฐานแกร่ง โอกาสโตสูง

จับตา TGE ลงสนามเทรดวันแรก ลุ้นวิ่งทะลุราคา IPO ที่ 2 บ. ขานรับชูพื้นฐานแกร่งมีโอกาสเติบโตในอนาคต เดินหน้านำเงินระดมทุนรองรับขยายธุรกิจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ส.ค.65) บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE เตรียมเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า TGE”

โดย TGE เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 3 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 29.7 เมกะวัตต์ โดยใช้วัตถุดิบหลักคือ ทะลายปาล์มเปล่า เส้นใยปาล์ม และวัสดุเหลือใช้จากการ เกษตรกรรม ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 3 แห่ง ขนาดกำลัง การผลิตติดตั้งรวม 22 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ TGE มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1,100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,600 ล้าน หุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 600 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่าย หลักทรัพย์ ผู้ลงทุนสถาบัน ผู้มีอุปการคุณของบริษัท และกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานบริษัทและบริษัทย่อย ในระหว่างวันที่ 9-11 ส.ค.65 ในราคาหุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 1,200 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,400 ล้านบาท โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจัด จำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ

ด้าน นายศักดิ์ดา ศิริภัทรโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TGE กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจและการลงทุนที่เกี่ยวกับพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกใหม่ๆ เพื่อเพิ่มกำลัง การผลิตติดตั้งของโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทให้มากกว่า 100 เมกะวัตต์ ภายในปี 70 รวมทั้งเปิดโอกาสในการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่ สามารถสร้างการเติบโตและผลกำไรอย่างยั่งยืน โดยเงินส่วนใหญ่จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ในการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 3 แห่งที่อยู่ระหว่างพัฒนา โดยคาดว่าจะเปิดดำเนินการภายในปี 67

โดยจะมีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ ครอบครัววนสุวรรณกุล ถือหุ้น 72.7% และ TGE มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นใน อัตราไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล การจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย และภาระผูกพันตามเงื่อนไข ของสัญญาเงินกู้ โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท และขึ้นอยู่กับผลประกอบการ ฐานะการเงิน สภาพคล่องทางการเงิน และความจำเป็นในการใช้เงินเพื่อบริหารกิจการ และการขยายธุรกิจของบริษัท รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า จุดเด่นของ TGE เป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่มีข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขัน จากความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความมั่นคงทางด้านวัตถุดิบที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า จึงสามารถบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่รายได้รวมนับจากปี 62-64 มีอัตราเติบโตเฉลี่ยราว 50% ต่อปี สะท้อนถึงพื้นฐานธุรกิจอันแข็งแกร่งผ่านผลการดำเนินงานของบริษัท

ส่วน นางยอดฤดี สันตติกุล กรรมการบริหาร บล.เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ TGE จำนวนไม่เกิน 600 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 27.3% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทที่ราคาเสนอขาย 2 บาทต่อหุ้น ได้รับผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทุกกลุ่ม สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา และโอกาสการเติบโตในอนาคตของ TGE โดยสามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินแก่ TGE เพื่อรองรับการขยายธุรกิจต่อไป

Back to top button