สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ส.ค. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ส.ค. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (18 ส.ค.) หลังจากบริษัทซิสโก ซิสเต็มส์เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด และช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวสูงกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,999.04 จุด เพิ่มขึ้น 18.72 จุด หรือ +0.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,283.74 จุด เพิ่มขึ้น 9.70 จุด หรือ +0.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,965.34 จุด เพิ่มขึ้น 27.22 จุด หรือ +0.21%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (18 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมัน แต่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ เนื่องจากถูกกดดันจากเงินเฟ้อของยูโรโซนที่แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. และเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากอีกครั้งในเดือนก.ย.

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 440.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.73 จุด หรือ +0.39%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,557.40 จุด เพิ่มขึ้น 29.08 จุด หรือ +0.45%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,697.41 จุด เพิ่มขึ้น 70.70 จุด หรือ +0.52% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,541.85 จุด เพิ่มขึ้น 26.10 จุด หรือ +0.35%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (18 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ แม้การปรับตัวขึ้นเป็นไปอย่างจำกัดเนื่องจากหุ้นหลายตัวขึ้นเครื่องหมาย XD และนักลงทุนวิตกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้นจะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,541.85 จุด เพิ่มขึ้น 26.10 จุด หรือ +0.35%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (18 ส.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 2.39 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 90.50 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.94 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 96.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี (18 ส.ค.) โดยสัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่องและเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.5 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,771.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 26.7 เซนต์ หรือ 1.35% ปิดที่ 19.464 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 14.4 ดอลลาร์ หรือ 1.57% ปิดที่ 904.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 12.70 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2,149.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (18 ส.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.85% แตะที่ระดับ 107.4840

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 135.87 เยน จากระดับ 135.06 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9563 ฟรังก์ จากระดับ 0.9515 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2940 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2898 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0093 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0185 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1934 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2064 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6919 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6943 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button