ASW เนรมิตโครงการมิกซ์ยูส “ไวส์พาร์ค มีนบุรี” มูลค่ากว่าหมื่นลบ. บนพื้นที่ 33 ไร่

ASW เนรมิตโครงการมิกซ์ยูส “ไวส์พาร์ค มีนบุรี” มูลค่ากว่าหมื่นลบ. บนพื้นที่ 33 ไร่ พร้อมเปิดตัวโครงการ "แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี" มูลค่ากว่า 1,350 ลบ. ตอบโจทย์คอมมูนิตี้มอลล์พร้อมที่อยู่อาศัย


นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW กล่าวว่า บริษัทได้เล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจในย่านมีนบุรี จึงเดินหน้าพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสครบวงจรแห่งใหม่ บนพื้นที่กว่า 33 ไร่ ใจกลางทำเลที่ดีที่สุดย่านมีนบุรี คือ โครงการ ไวส์พาร์ค มีนบุรี (WISEPARK Minburi) มูลค่าโครงการรวมกว่า 10,000 ล้านบาท

แอสเซทไวส์มีความมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจอสังหาฯ ที่มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว เพื่อสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ผนวกกับการขยายตัวของเมืองกรุงเทพฯ ในปัจจุบันที่ขยายออกไปในแต่ละพื้นที่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะย่านมีนบุรี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยศักยภาพ ทั้งด้านปัจจัยการอยู่อาศัย แหล่งงาน และแหล่งรวมไลฟ์สไตล์มากมาย จนได้รับการขนานนามว่า เป็นย่าน The Next CBD ศูนย์กลางแหล่งงานและธุรกิจของเมือง รอบนอกฝั่งตะวันออกของกรุงเทพแห่งใหม่ในอนาคต”นายกรมเชษฐ์ กล่าว

สำหรับ ไวส์พาร์ค มีนบุรี (WISEPARK Minburi) ถือเป็นมิกซ์ยูสแห่งแรกของบริษัท ตั้งอยู่ติดถนนสีหบุรานุกิจ โดยบริษัทมีแผนจะพัฒนาพื้นที่ขนาดกว่า 33 ไร่เป็นมิกซ์ยูสใหม่ล้ำสมัยครบวงจรแห่งใหม่ ประกอบด้วย โครงการมิงเกิ้ล มอลล์ (Mingle Mall) คอมมูนิตี้มอลล์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย, โครงการ แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี (Atmoz Flow Minburi) คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท, WISEPARK PAVILION, LINEAR GARDEN และยังได้เนรมิตพื้นที่สีเขียวในโครงการกว่า 12 ไร่ เพื่อให้คุณได้อยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมถึงในอนาคตยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการเพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยในอนาคต เพื่อมอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า

ทั้งนี้บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการออกแบบโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต จึงได้ศึกษาข้อมูล และพัฒนาโครงการ “ไวส์พาร์ค มีนบุรี” ภายใต้แนวคิด “WISECOLOGY เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบทั้งในวันนี้ และอนาคต” โดยมีเป้าหมายเป็นเมืองแห่งสุขภาวะที่ดี สร้างสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่ปลอดภัยเป็นมิตรและยั่งยืน ด้วยการนำเทคโนโลยี, ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และสิ่งแวดล้อม มาต่อยอด โดยยกระดับคุณภาพของการอยู่อาศัยบนพื้นที่ The Next CBD มาผสมผสานกับความโดดเด่นของโครงการ ทั้ง 3 ด้าน ที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่า ประกอบด้วย

  1. Smart Living “สร้างสรรค์สังคมแห่งความสะดวก สบาย และปลอดภัย” และบริเวณด้านหน้าโครงการยังเป็นที่ตั้งของ มิงเกิ้ล มอลล์ (Mingle Mall) คอมมูนิตี้มอลล์แห่งที่ 2 จาก ASW พื้นที่รวมกว่า 8,857 ตร.ม. และเป็น Transportations Center เชื่อมต่อทุกการเดินทางสู่อนาคตที่สะดวกสบาย ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสถานีรถไฟฟ้ามีนบุรี Interchange สายสีชมพู – สายสีส้ม ซึ่งจะเปิดให้บริการปี 67 อีกทั้งยังใกล้จุดขึ้น-ลงวงแหวนกาญจนาภิเษก และสนามบินสุวรรณภูมิ
  2. Sustainable Life “คิด…เพื่อคนทุกรุ่นทั้งวันนี้ และอนาคต” ออกแบบพื้นที่เพื่อให้ตอบโจทย์คนทุกรุ่นด้วยยูนิตที่เป็น All Gens Series ภายใต้แนวคิด “Multi Dimension for Multi Lifestyle” ทั้ง Extensive Space การออกแบบพื้นที่ของห้องพักให้กว้างขวาง มาพร้อม Adaptive Design ฟังก์ชั่นการใช้งานที่คุ้มค่า และสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อย่างหลากหลาย เพื่อสอดรับกับ Flexible Lifestyle ที่มีความยืดหยุ่นสูง รองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนทุกวัย และยังยกระดับการมีสุขภาพที่ดีด้วย Ensured Safety and Health บริการดูแลสุขภาพ Health Service ด้วย AssetWise Health Station
  3. Environment Friendly “คิด…เพื่อรักษ์โลก” ภายใต้แนวคิด “GrowGreen” เพื่อสร้าง Community ที่เกื้อหนุนให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งในแง่ของการพักอาศัย สิ่งแวดล้อมและสังคม ภายใต้ 5 แกนหลัก อย่าง Energy Efficiency, Waste Management, Green Space, Clean Airและ Water Saving

ล่าสุด บริษัทได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยนำโครงการภายใต้แบรนด์แอทโมซ (ATMOZ) ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ไฮไลท์ของบริษัทฯ มาต่อยอดในทำเลนี้อีกด้วย กับโครงการ “แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี” (Atmoz Flow Minburi)  คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท มาพร้อมนิยามการอยู่อาศัยที่ผสมผสานเทคโนโลยี และพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติไว้ในทุกรายละเอียดได้อย่างกลมกลืน ตอบโจทย์วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด เพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน บนทำเลศักยภาพใจกลางมีนบุรี ขนาดพื้นที่ 6-0-13 ไร่ จำนวน 3 อาคาร รวม 739 ยูนิต โดดเด่นด้วย Lifestyle Activities ที่ครบครันกว่า 35 รายการ ซึ่งเริ่มเปิดจองแล้ว ในราคาเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท

Back to top button