เฟ้น 10 กองทุนรวม ผลตอบแทน 5 ปี ทะลุ 10%

คัด 10 กองทุนรวม ต่อสู้เงินเฟ้อสร้างผลตอบแทนได้ดีต่อเนื่องเฉลี่ย 5 ปี ทะลุ 10%


ปัจจุบันเงินเฟ้อทั่วโลกสูงขึ้นเร็วมากเนื่องจากราคาพลังงานและอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งการแก้ปัญหาของเงินเฟ้อจะเลี่ยงการขึ้นดอกเบี้ยไปไม่ได้ โดยแต่ละประเทศก็มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในสัดส่วนต่างกัน อาทิ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวครั้งเดียวครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยขึ้นอัตราดอกเบี้ยมา เพื่อคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น 9.10% ให้กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุม

นอกจากนี้ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ยังปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% สู่ระดับ 2.35% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ “นายฟิลลิป โลว์ส” ผู้ว่าการ RBA ส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องตราบใดที่เงินเฟ้อของออสเตรเลียยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2-3%

อย่างไรก็ดีนักลงทุนยังคงเฝ้าติดตามประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ เพื่อดูว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยที่เท่าไหร่ ภายหลังเงินเฟ้อสหรัฐเดือนส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ โดยนักลงทุนให้น้ำหนัก 32% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% สู่ระดับ 3.25-3.50% และให้น้ำหนัก 82% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

สำหรับในช่วงที่เป็นดอกเบี้ยขาขึ้นนั้นนักลงทุนจึงต้องการแหล่งลงทุนที่สามารถต่อสู้กับเงินเฟ้อได้เพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่งการลงทุนในกองทุนจึงเป็นอีกทางเลือกที่สามาถสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี

โดยทาง บล.กสิกรไทย ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลตอบแทนจากกองทุนแต่ละแห่งที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้ดีต่อเนื่องสม่ำเสมอในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่มีผลตอบแทนสูงเกิน 10%

ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ เฟล็กซิเบิ้ล พลัส (TISCOFLEXP) ซึ่งลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดีที่มีศักยภาพและเติบโตสูงในอนาคต ผลการดำเนินงานเฉลี่ย 5 ปี 15.73%, กองทุนเปิดทหารไทยออย์ฟันด์ (TMBOIL) ลงทุนในดัชนีน้ำมันผ่านการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco DB Oil Fund ผลการดำเนินงานเฉลี่ย 5 ปี 15.38%, กองทุนเปิดทาลิส MID-SMALL CAP (TLMSEQ) เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตที่ดีในอนาคต ผลการดำเนินงานเฉลี่ย 5 ปี 14.80%, กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A (TSF-A) เน้นลงทุนหุ้นไทยพื้นฐานดีที่ผ่านการคัดสรรจากผุ้จัดการกองทุน โดยใช้นโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก ผลการดำเนินงานเฉลี่ย 5 ปี 14.66%,

กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-USXNDQ-A (D)) ลงทุนหุ้นในสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ที่สุด 100 ตัวแรก ในตลาดหุ้น Nasdaq 100 โดยเน้นหุ้นเทคโนโลยีระดับท็อป ผลการดำเนินงานเฉลี่ย 5 ปี 14.56%, กองทุนเปิด เค ออยล์ (K-OIL) ลงทุนในดัชนีน้ำมัน ผ่านการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco DB Oil Fund ผลการดำเนินงานเฉลี่ย 5 ปี 12.78%, กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป ชนิดผู้ลงทุนทั่วไปที่รับเงินปันผล (M-MIDSMALL-D) ลงทุนในหุ้นไทยของบริษัทขนาดกลาง-เล็ก ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ผลการดำเนินงานเฉลี่ย 5 ปี 12.32%,

กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ อันเฮดจ์ (TUSEQ-UH) ลงทุนหุ้นชั้นนำในสหรัฐฯ ผ่านการลงทุนในหน่วยทุนของกองทุน SPDR S&P500 ETF ผลการดำเนินงานเฉลี่ย 5 ปี 12.15%, กองทุนเปิด ทิสโก้ แอ็กเกรสซีฟ โกรท ฟันด์ (TISCOAGF) เป็นกองทุนผสมแบบ Aggressive Allocation ปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้รวมถึงอนุพันธ์ได้ตามสภาวะตลาด ผลการดำเนินงานเฉลี่ย 5 ปี 11.78% และ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสออยล์ (ASP-OIL) ลงทุนในดัชนีน้ำมัน ผ่านการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco DB Oil Fund ผลการดำเนินงานเฉลี่ย 5 ปี 11.68%

Back to top button