ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมแผนฟื้นฟู เร่งสูบน้ำออกพื้นที่ พร้อมรับมือฝนระลอกใหม่

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมแผนฟื้นฟู ทำความสะอาดบ้านเมือง สร้างความมั่นใจให้กับท่องเที่ยว และกำชับหน่วยงานรับผิดชอบ เร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมรับมือฝนระลอกใหม่ช่วงสัปดาห์หน้า เร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่


นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยกล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิงในวันนี้ (4 ต.ค.65) ปริมาณน้ำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มที่จะลดลง ซึ่งจะเร่งระบายน้ำในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ให้ลดลงโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาวัดได้ถึง 1,700 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ามีปริมาณมาก เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่เคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่มีปริมาณน้ำฝนวัดได้ 1,395 มิลลิเมตร โดยน้ำท่วมกินบริเวณกว้างถึง 7 โซนในเขตเมืองเชียงใหม่

หากทว่าปีนี้ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนมากกว่า แต่พื้นที่น้ำท่วมกินบริเวณเพียง 2 โซน ซึ่งได้นำบทเรียนของปี 54 มาแก้ปัญหาแบบเร่งด่วนทันต่อเหตุการณ์ ด้วยการให้ปิดทางระบายน้ำไม่ให้น้ำย้อนไหลเข้าเมือง

โดยได้สั่งการให้เทศบาลนครเชียงใหม่ปิดท่อระบายน้ำโดยใช้กระสอบทราย และแผนระยะยาวก็จะต้องใช้วิธีการนี้ แต่อาจต้องใช้แผ่นเหล็กหรือระบบที่ทันสมัยเพื่อนำมาปิดบริเวณปลายท่อสำคัญทุกจุดทั่วเมือง

ทั้งนี้ล่าสุด ได้สั่งการให้ตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ทุกปลายท่อสำคัญในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยระดมเครื่องสูบน้ำมาจากทุกหน่วยงานนอกพื้นที่ รวมถึงส่วนกลาง เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันคาดว่าน้ำในแม่น้ำปิง จะลดลงภายใน 3 วัน และภายใน 7 วัน น้ำในแม่น้ำปิงจะลงต่ำกว่าจุดวิกฤต ซึ่งตามธรรมชาติปริมาณน้ำจะลดลงภายใน 7 วัน แต่สำหรับเชียงใหม่จะปล่อยให้น้ำลดตามธรรมชาติไม่ได้ เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ถ้าปล่อยไปตามธรรมชาติ เศรษฐกิจจะเสียหาย

ขณะเดียวกัน ได้เตรียมพร้อมรับมือกับฝนระลอกใหม่ในช่วงสัปดาห์หน้าและหลังจากน้ำในแม่น้ำปิงเริ่มลดลง เครื่องสูบน้ำจะเร่งทำงาน สูบน้ำในพื้นที่ท่วมขังออกคาดว่าภายใน 3 วัน น้ำต้องแห้งทั้งเมือง

“ได้เตรียมแผนฟื้นฟู ล้างทำความสะอาดเมือง ถนน บ้านเรือน แหล่งเศรษฐกิจ ให้เชียงใหม่กลับมาเป็นเมืองสะอาดให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยว พร้อมกำชับหน่วยงานรับผิดชอบ เร่งสำรวจความเสียหาย เยียวยาประชาชน ความช่วยเหลือต้องถึงมือประชาชนโดยตรง” นายนิรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เทศบาลนครเชียงใหม่เร่งจัดการสวะในแม่น้ำปิง เพื่อเพิ่มการไหลของน้ำให้เร็วขึ้นตลอดจนได้ แจ้งเตือนจังหวัดใกล้เคียงที่น้ำจากเชียงใหม่จะส่งผลกระทบไปถึงคือ จังหวัดลำพูน และจังหวัดตาก ซึ่งน้ำจากบงใหม่จะไหลลงสู่ทั้ง 2 จังหวัด วินาทีละกว่า 70 คิว และจะไหลลงเขื่อนภูมิพล เพื่อประสานแผนรองรับน้ำ

ทั้งนี้การแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำในระยะกลาง และระยะยาวของจังหวัดเชียงใหม่ จะต้องสร้างคันกั้นน้ำให้อยู่ระดับสูงสุดเท่ากันของริมแม่น้ำปิงทั้ง 2 ฝั่ง แต่ต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนก่อนดำเนินการ และต้องวางระบบป้องกันน้ำให้เป็นระบบ สามารถเปิด-ปิดท่อระบายน้ำ ระบบสูบน้ำ โดยไม่พึ่งกระสอบทราย และระบบทางเบี่ยงไม่ให้น้ำเข้าท่วมเมือง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว

Back to top button