“กกร.” ชี้น้ำท่วมเสียหาย 1 หมื่นล้านบาท พร้อมปรับ GDP ปี 65 แตะ 3.5%

“กกร.” ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดน้ำท่วมกระทบ 5 พันบาท - 1 หมื่นล้านบาท พร้อมปรับ GDP ปี 65 แตะ 3.5% จากเดิมคาด 2.75-3.5% หลังการท่องเที่ยวฟื้น


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินความเสียหายที่เกิดจากสถานการณ์น้ำท่วมปี 2565 ในช่วงที่ผ่านมา คาด 5,000 – 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นห่วงพื้นที่โซนเมืองที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังในหลายจังหวัด เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ กระทบต่อความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของประชาชน

ขณะที่ภาคการเกษตรได้ผลกระทบในบางพื้นที่แต่ภาพรวมยังไม่กระทบเศรษฐกิจมากนัก ส่วนผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมผู้ประกอบการ ยังมีความมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงด้านอุทกภัยได้

นอกจากนี้ กกร. ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 65 ใหม่ ซึ่งขยายตัวได้ในกรอบ 3-3.5% จากเดิมคาด 2.75-3.5% ขณะที่มูลค่าการส่งออกคาดว่าขยายตัวได้ในกรอบ 7-8% จากเดิมคาด 6-8% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในกรอบ 6-6.5% จาก 5.5 – 7% เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงกว่าคาดการณ์ในเดือนส.ค. อยู่ที่ 1.17 ล้านคน คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดปี 65 มีโอกาสแตะระดับ 9-10 ล้านคน ซึ่งเป็นผลดีต่อการจ้างงาน และรายได้แรงงาน ส่งเสริมอุปสงค์ภายในประเทศให้ทยอยฟื้นตัว

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงต่อกำลังซื้อของครัวเรือน และความเสี่ยงต่อรายได้ภาคเกษตรจากสถานการณ์น้ำท่วม

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มยืนอยู่ในระดับสูง แม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่อัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มยืนอยู่ในระดับสูง เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้นจากเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 38 บาทต่อดอลลาร์

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศยังไม่สามารถลดลงได้มากนัก ขณะที่ค่าไฟฟ้ามีการปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย. รวมถึงการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ ล้วนเป็นปัจจัยกดดันต้นทุนของผู้ประกอบการที่จะต้องส่งผ่านไปยังราคาสินค้าและบริการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ได้หารือประเด็นขับเคลื่อน Competitiveness เป็นการเร่งด่วน เพื่อให้เศรษฐกิจไทยกลับมาโดดเด่นและแข่งขันได้ โดยจะหารือกับ CEO จากแต่ละกลุ่มธุรกิจ เพื่อรับมือสถานการณ์เศรษฐกิจในปีหน้า พร้อมทั้งสร้างแนวทางความสามารถในการแข่งขันให้แก่ประเทศไทยอย่างยั่งยืน

อีกทั้งได้มีประเด็นหารือเพิ่มเติมเรื่องข้อคิดเห็นต่อพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 เรื่องการจัดสรรน้ำและการใช้น้ำ ตามหมวด 4 โดยเสนอให้พิจารณาเลื่อนระยะเวลาในการเรียกเก็บค่าใช้น้ำ หรือหากต้องเรียกเก็บให้ใช้อัตราค่าใช้น้ำเดิมที่ มธ. ได้

ขณะที่การประชุมรับฟังความคิดเห็นรอบปัจฉิมควรระบุเงื่อนไขการเรียกเก็บให้ชัดเจน เช่น การรับน้ำจากผู้สูบจ่ายหรือปรับปรุงคุณภาพน้ำ ผู้ที่รับน้ำไม่ควรชำระค่าน้ำซ้ำซ้อน และการใช้ที่ดินหรืองบประมาณของภาคเอกชนในการสร้างแหล่งเก็บน้ำ ไม่ควรต้องชำระเงินค่าน้ำให้กับ ภาครัฐ และกรณีที่ใช้น้ำเพื่อกิจกรรม CSR ให้กับภาคเกษตรและชุมชน หรือทำการเก็บกักน้ำในที่ดินเอกชน เพื่อป้องกันปัญหาน้ำแล้งและ อุทกภัย ควรยกเว้น หรือได้รับการลดหย่อนการเรียกเก็บค่าใช้น้ำ

สำหรับการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ APEC ในช่วงปลายปี นายสนัน ระบุว่า กกร. พร้อมสนับสนุนรัฐบาลในการจัดประชุมให้เป็นไปตามเป้าหมาย รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ABAC 2022 ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย. 65 และการประชุม APEC CEO Summit 2022 ระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย. 65 ณ Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok โดยยืนยันความพร้อมในทุกมิติ

Back to top button