AURA ยื่นไฟลิ่งขาย “ไอพีโอ” 334 ล้านหุ้น ปักหมุดเทรด SET เสริมแกร่ง “ค้าปลีกทองรูปพรรณ”

ก.ล.ต.นับหนึ่งยื่นไฟลิ่ง “ออโรร่า ดีไซน์” เดินหน้าเสนอขาย “ไอพีโอ” 334 ล้านหุ้น พร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำ Luxury Retail ของประเทศไทย


นายอนิวรรต ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ซึ่งได้แก่การขาย รับซื้อคืน ขายฝากสินค้า และบริการหลังการขายที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหารอย่างยาวนาน เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ “ผู้นำในการส่งมอบของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า” นำเสนอของขวัญที่มีค่ามีคุณภาพและสร้างความหลากหลายด้านผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ AURORA, เซ่งเฮง, ทองมาเงินไป, ของขวัญ by AURORA และ AURORA Diamond โดยมีเป้าหมายพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำ Luxury Retail ในประเทศไทย

ปัจจุบัน ธุรกิจของบริษัทฯ แบ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

1.ธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ และเครื่องประดับและของขวัญที่ทำมาจากทองคำ โดยมีผลิตภัณฑ์ 3 ประเภท ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์โมเดิร์น โกลด์ “Modern Gold” เป็นทองรูปพรรณที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5% อาทิ สร้อยคอ แหวน สร้อยข้อมือ

2) ผลิตภัณฑ์ดีไซน์ โกลด์ “Design Gold” เป็นผลิตภัณฑ์จากทองอื่นๆ (ไม่รวมผลิตภัณฑ์ Modern Gold ที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5%) โดยมีสินค้าทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. พระเครื่องเลี่ยมทอง 2. สินค้าเสริมสิริมงคล 3. เครื่องประดับ และ 4. สินค้ากลุ่มของขวัญ และ 3) ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับเพชร “Diamond” เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องประดับเพชรแท้ เช่น แหวนเพชร สร้อยคอเพชร เป็นต้น

2.ธุรกิจขายฝากทองรูปพรรณ และเครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบ “ธุรกิจขายฝาก” โดยลูกค้าสามารถไถ่ถอนทรัพย์ที่นำมาขายฝากได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน

ทั้งนี้ บริษัทถือเป็นผู้นำค้าปลีกธุรกิจทองรูปพรรณ และเครื่องประดับแบบครบวงจรเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับลูกค้า ทำให้แบรนด์ AURORA และแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอเป็นที่ยอมรับและมีความน่าเชื่อถือ พร้อมมีช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุม ทั้งผ่านหน้าร้านสาขา (Offline) ในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมทั้งสาขาในแหล่งชุมชนทั่วประเทศ

โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีจำนวนสาขารวม 265 แห่ง และช่องทางการจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย มาร์เก็ตเพลส อาทิ Lazada Shopee เป็นต้น ช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกเพศและทุกวัย

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ 6 กลยุทธ์หลัก ได้แก่  1) นำเสนอสินค้าและบริการที่มีความหลากหลาย โดยนำ Big Data มาใช้สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ แบรนด์ใหม่ รวมทั้งขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับทองคำ

2). มุ่งขยายธุรกิจขายฝากทองรูปพรรณ เครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบภายใต้แบรนด์ “ทองมาเงินไป” บนทำเลที่มีศักยภาพในแหล่งชุมชน

3). สร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจำหน่าย ด้วยกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) มุ่งเน้นขยายสาขา (Offline) บนทำเลที่มีศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ  ควบคู่กับการขยายช่องทางขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online)

4.) สร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าและพันธมิตร โดยรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ ตลอดจนสถาบันอัญมณีศาสตร์ชั้นนำของโลก โดยบริษัทได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรทางธุรกิจที่มีชื่อเสียงระดับโลกในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า เช่น การนำเสนอเครื่องประดับเพชรคุณภาพที่ได้รับการรับรองจากสถาบันอัญมณีศาสตร์ชั้นนำของโลก มีใบรับรอง De Beers Code of Origin โดย De Beers Institute of Diamond ประเทศอังกฤษ และ Sarine จากประเทศอิสราเอล ตอกย้ำความน่าเชื่อถือในแบรนด์สินค้าและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

5.) นำเทคโนโลยีสร้างสรรค์สินค้าและบริการ ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่เพื่อส่งเสริมการซื้อสินค้าและบริการหลังการขาย สร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ (Customer Loyalty)

6.) ดำเนินกลยุทธ์สร้างแบรนด์ที่แตกต่างและมีความแข็งแกร่งด้วยการเป็นแบรนด์ของขวัญล้ำค่า เพื่อส่งมอบความสุขในโอกาสพิเศษต่างๆ  มากกว่าเป็นร้านขายทองคำ

ด้าน นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า หลังจาก AURA ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอออกและเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 334 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 25.04% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับ 1 แบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และ Filing แล้ว

Back to top button