ตลท.สั่งแขวน SP หุ้น MORE ปมเบี้ยวเงินซื้อหุ้นกว่า 7 พันล้าน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) แถลงวันนี้สั่งแขวนเครื่องหมาย SP หุ้น MORE ปมเบี้ยวเงินซื้อหุ้นกว่า 7 พันล้าน จนกว่า MORE จะมีการชี้แจงข้อมูลที่ชัดเจน


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) แถลงข่าว “แนวทางการแก้ไขปัญหากรณีหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE วันนี้(14 พ.ย.65)เมื่อเวลา 9:00 น. ที่ห้องประชุมเสรี จินตนเสรี ชั้น 7 อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ผ่านมา ล่าสุดตลท.ได้ประกาศขึ้นเครื่องหมาย “SP” ห้ามซื้อขายหุ้น MORE เป็นการชั่วคราว

เนื่องจากตลท.พบว่าหลักทรัพย์ MORE มีการซื้อขายในวันพฤหัสบดีที่ 10 พ.ย. 65 ผิดปกติไปจากช่วงก่อนหน้า โดยมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 7,142 ล้านบาท เป็นอันดับ 1 ของมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งตลาด (SET และ mai)  โดยเปิดตลาดที่ราคา 2.90 บาท เพิ่มขึ้น 4.3% จากราคาปิดวันก่อนหน้า จากนั้นราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนราคาต่ำสุด (Floor)

จากนั้นในวันศุกร์ที่ 11 พ.ย.65 ราคาหุ้นยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องจนราคาต่ำสุด (Floor) อีกวันมาที่ราคา 1.34 บาท ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้แจ้งเตือนให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายรวมถึงให้บริษัทสมาชิกเพิ่มมาตรการในการกำกับดูแลการซื้อขายในหลักทรัพย์ดังกล่าวแล้ว

ดังนั้นเพื่อให้ผู้ลงทุนได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ MORE จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องและครบถ้วน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเห็นควรหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์MORE ในวันที่ 14 พ.ย.65

สำหรับ SP (Trading Suspension) เป็นเครื่องหมายแสดงการห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว โดยแต่ละครั้ง มีระยะเวลาเกินกว่าหนึ่งรอบการซื้อขายซึ่งตลาดหลักทรัพย์มีหลักเกณฑ์ในการขึ้นเครื่องหมาย SP ดังนี้

1.เมื่อเกิดกรณีเช่นเดียวกับข้อ 1 ถึง 3 ของการขึ้นเครื่องหมาย H และตลาดหลักทรัพย์ เห็นว่าบริษัทไม่สามารถชี้แจงหรือเปิดเผยข้อมูลได้ในทันที

2.บริษัทฝ่าฝืนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง มติคณะกรรมการ ข้อตกลง ตลอดจนหนังสือเวียน ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดให้บริษัทปฏิบัติตาม

3.บริษัทไม่นำส่งงบการเงินให้ตลาดหลักทรัพย์ภายในเวลาที่กำหนด

4.หลักทรัพย์อยู่ระหว่างการพิจารณาเพิกถอนหรืออยู่ระหว่างการปรับปรุงสถานภาพเพื่อให้ พ้นข่ายการถูกเพิกถอน

5.หลักทรัพย์จะครบกำหนดเวลาในการไถ่ถอนหรือการแปลงสภาพหรือการใช้สิทธิหรือ การขายคืน

6.มีเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการซื้อขายหลักทรัพย์

Back to top button