เปิดคำสั่ง “ปปง.” อายัด 34 บัญชีเอี่ยว MORE กว่า 5.3 พันล้าน เข้าข่าย “ฉ้อโกง-ปั่นหุ้น”

ปปง. เปิดข้อมูล “อภิมุข” พร้อมพวก 24 ราย ฉ้อโกงหุ้น MORE วันที่ 10 พ.ย. ได้มีการอายัดบัญชีองผู้เกี่ยวข้อง รวม 34 รายการ มูลค่า 5,376 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เปิดเผยว่า การออกคำสั่งอายัดทรัพย์เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดฉ้อโกงจากการซื้อขายหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE วงเงินกว่า 5,300 พันล้านบาท เป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน สืบเนื่องจาก บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นายอภิมุข บำรุงวงศ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ MORE และบุคคลที่เกี่ยวข้องได้หลอกลวงบริษัทหลักทรัพย์ให้หลงเชื่อว่า จะชำระค่าหุ้น MORE และ MORE-R จึงทำให้ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร อนุมัติสินเชื่อให้

ขณะที่ในวันที่ 10 พ.ย. 65 นายอภิมุข ได้ตั้งคำสั่งซื้อหุ้น MORE และ MORE-R จำนวนมากก่อนตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปิดทำการผ่านระบบ Automatic Order Matchnig (AOM) โดยส่งคำสั่งไปยังบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หลายแห่งที่เป็นนายหน้าของนายอภิมุขในราคาสูงกว่าราคาปิดตลาดในวันก่อนหน้า แต่เมื่อครบกำหนดกลับไม่ชำระค่าหุ้นดังกล่าว

โดยจากการสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังพบนายอภิมุข และผู้เกี่ยวข้อง 24 ราย ตั้งคำสั่งซื้อขายในลักษณะเดียวกัน โดยมีเงื่อนไขว่าให้ซื้อขายในราคาเปิดตลาด และยังพบว่าคำสั่งซื้อขายของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายอภิมุขมีหลายเลข (IP Address)  ตรงกับคำสั่งซื้อขายของนายอภิมุข และอยู่ในสถานที่เดียวกัน

สำหรับบุคคลที่เกี่ยวข้องมีตั้งแต่นายอภิมุข และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ MORE ที่เป็นบุคคลใน 10 อันดับแรก รวมถึงเครือญาติและเพื่อน ยกเว้นนายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งใน MORE ซึ่งส่วนหนึ่งของผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอดีตผู้ถือหุ้นและผู้บริหารตั้งแต่สมัยที่เป็น บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA  ซึ่งเป็นชื่อเดิมของ MORE รวมทั้งผู้บริหารของ บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ HEMP, อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GSC นอกจากนั้น ยังมีเครือบริษัท ตงฮั้ว จำกัด (มหาชน) หรือ TH ร่วมด้วย

ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง ยังพบว่า พฤติกรรมของนายอภิมุขกับพวก ไม่ได้ตั้งใจจะชำระค่าหุ้น MORE และ MORE-R ตั้งแต่ต้น และกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องก็มีส่วนรู้เห็นและร่วมกันวางแผน และจะได้รับเงินจากการขายหุ้น MORE และ MORE-R โดยมีเจตนาเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง เพื่อให้ได้วงเงินในการซื้อหุ้น MORE และ MORE-R แต่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ และมีเจตนาหลีกเลี่ยงการทำรายการซื้อขายที่ต้องอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์ โดยทำการซื้อขายในลักษณะ Big Lot ที่อาจทำให้ผู้ซื้อถือครองหุ้นข้ามเส้น 25% และมีเจตนาปกปิดข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถือหุ้นของตนเอง ซึ่งเป็นเจตนาหลีกเลี่ยงการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ หรือ เทนเดอร์ออฟเฟอร์ ซึ่งทำให้นักลงทุนทั่วไปเสียประโยชน์และมีความเสียหาย

นอกจากนี้ยังพบว่าคำสั่งขายหลายคำสั่งของบุคคลที่ ปปง.สั่งอายัดทรัพย์ใช้ไอพีแอดเดรสเดียวกับ นายอภิมุข ซึ่งเป็นผู้ซื้อหุ้น MORE ในวันที่ 10 พ.ย.65

โดยพฤติกรรมดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายอภิมุขพร้อมพวกได้ไปซึ่งสินทรัพย์จากการกระทำความผิดดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญา

สำหรับทรัพย์สินที่อายัดไว้อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ 15 บริษัท โดยเฉพาะเงินหรือหุ้นของนายอภิมุข ที่ซื้อต่อเนื่องจากการขายหุ้น MORE และ MORE-R ในบริษัทหลักทรัพย์ 2 แห่ง มูลค่าราว 444 ล้านบาท รวมถึงบัญชีของผู้เกี่ยวข้อง รวม 34 รายการ มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 5,376 ล้านบาท ดังนี้

นายอภิมุข บำรุงวงศ์ บัญชีดูแลของ บล.ไอร่า มูลค่า  405.64 ล้านบาท

นายอภิมุข บำรุงวงศ์ บัญชีดูแลของ บล.จีเอ็ม โอ-แซต คอม มูลค่า 39 ล้านบาท

นายชิติพัทธ์ กล่อมจิตเจริญ  บัญชีดูแลของ บล. ไอร่า มูลค่า 8.10 ล้านบาท

นายชิติพัทธ์ กล่อมจิตเจริญ บัญชีดูแลของ บล.บัวหลวง มูลค่า  9.51 ล้านบาท

นายเอกภัทร พรประภา บัญชีดูแลของ บล. อินโน เสท์ เอกซ์ มูลค่า 1,808.72 ล้านบาท

นายอธิภัทร พรประภา บัญชีดูแลของ บล.บัวหลวง มูลค่า 676.76 ล้านบาท

นางอรพินธุ์ พรประภา บัญชีดูแลของ บล. อินโน เสท์ เอกซ์ 122.94 ล้านบาท

นายเกรียงศักดิ์ วงศ์โอสถพานิช บัญชีดูแลของ บล. อินโน เสท์ เอกซ์ มูลค่า 7.40 ล้านบาท

นายวสันต์ จาวลา บัญชีดูแลของ บล. เอเอสแอล  มูลค่า 78 ล้านบาท

นายศิริศักดิ์ ปิยทัสสีกุล บัญชีดูแลของ บล.เอเอสแอล  มูลค่า 369.80 ล้านบาท

นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา บัญชีดูแลของ บล. เอเอสแอล มูลค่า 195 ล้านบาท

นายวสันต์ จาวลา บัญชีดูแลของ บล. เอเชีย เวลท์ มูลค่า 55.10 ล้านบาท

นายวสันต์ จาวลา บัญชีดูแลของ บล.จีเอ็ม โอ-แซต คอม มูลค่า 26.64 ล้านบาท

นายประยูร อัสสกาญจน์ บัญชีดูแลของ บล. เอเชีย เวลท์ มูลค่า 145 ล้านบาท

นายธรรมนูญ เวชวิทยาขลัง บัญชีดูแลของ บล. เอเชีย เวลท์ มูลค่า 11.60 ล้านบาท

นายอภิชาติ บำรุงวงศ์ บัญชีดูแลของ บล.บัวหลวง มูลค่า 15.36 ล้านบาท

นายไพศาล เกษมศิรินาวิน บัญชีดูแลของ บล.บัวหลวง มูลค่า 6.12 ล้านบาท

นายธนยุทธ ฤกษ์รักษา บัญชีดูแลของ บล.บัวหลวง มูลค่า 2.79 ล้านบาท

นางสาวจิระวรรณ ไชยพงศ์ผาติ บัญชีดูแลของ บล.ดาโอ มูลค่า 183.02 ล้านบาท

นายสมนึก กยาวัฒนกิจ บัญชีดูแลของ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส  มูลค่า 2.90 ล้านบาท

นายสมนึก กยาวัฒนกิจ บัญชีดูแลของ บล. หยวนต้า มูลค่า 14.50 ล้านบาท

บริษัทตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด บัญชีดูแลของ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มูลค่า 102.59 ล้านบาท

นายปริญญา ปริญญานุสสรณ์ บัญชีดูแลของ บล. ฟินันเซีย ไซรัส มูลค่า 156.93 ล้านบาท

นายกัลพล ปริญญานุสสรณ์ บัญชีดูแลของบล. ฟินันเซีย ไซรัส มูลค่า 19.50 ล้านบาท

นางสาวอรเก้า ไกยสิทธิ์ บัญชีดูแลของ บล.อินโน เสท์ เอกซ์ มูลค่า 432.91 ล้านบาท

นายมั่นคง เสถียรถิระกุล บัญชีดูแลของ บล. กสิกรไทย มูลค่า 146.28 ล้านบาท

นายพิเชษฐ์ ผลสุวรรณ บัญชีดูแลของ บล. กสิกรไทย มูลค่า 5.22 ล้านบาท

นายเกรียงศักดิ์ วงศ์โอสถพานิช บัญชีดูแลของ บล.กสิกรไทย มูลค่า185.50 ล้านบาท

นายมั่นคง เสถียรถิระกุล บัญชีดูแลของ บล. เคจีไอ มูลค่า 1.52 แสนบาท

นายอิทธิวรรธณ์ วรรณะเอี่ยมพิกุล บัญชีดูแลของ บล. คิงส์ฟอร์ด มูลค่า 131.94 ล้านบาท

นายภัทร ฉัตรเจริญสุข บัญชีดูแลของ บล. คิงส์ฟอร์ด มูลค่า 2.69 ล้านบาท

บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด บัญชีดูแลของ บล.หยวนต้า มูลค่า 27.78 ล้านบาท

นายธรรมนูญ เวชวิทยาขลัง บัญชีดูแลของ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มูลค่า 13.20 ล้านบาท

นายธนยุทธ ฤกษ์รักษา  บัญชีดูแลของ บล. พาย มูลค่า 7.28 ล้านบาท

Back to top button