
KKP คว้ารางวัล “บริษัทหลักทรัพย์-กองทุนยอดเยี่ยม” ตอกย้ำสถาบันการเงินชั้นนำ
KKP ตอกย้ำภาพลักษณ์สถาบันการเงินชั้นนำที่คนไทยไว้วางใจ คว้ารางวัลอันทรงเกียรติ บริษัทหลักทรัพย์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 และกองทุนยอดเยี่ยมอีก 2 รางวัล จากเวที Money & Banking Awards 2025 จัดขึ้นโดยวารสารการเงินธนาคาร เพื่อเชิดชูบุคคล ธนาคาร และสถาบันการเงินที่มีความเลิศในการบริหารจัดการธุรกิจ
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP สถาบันการเงินชั้นนำที่คนไทยไว้วางใจ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ “บริษัทหลักทรัพย์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2568” ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด บริหารกองทุนโดดเด่น คว้ารางวัลกองทุนยอดเยี่ยมถึงสองรางวัล ได้แก่ “KKP INRMF ได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตราสารหนี้” และ “KKP GB THAI ESG ได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน”
โดยการมอบรางวัลจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ โดยมี นายสุกิตติ์ ตั้งมณีนิมิตร กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าสายงานหลักทรัพย์สถาบัน KKP นายรัฐพล ขัตติยะสุวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมการลงทุนตราสารหนี้ บลจ.เกียรตินาคินภัทร และ นายสิทธิเดชน์ เอี้ยวสกุล ผู้จัดการอาวุโส บลจ.เกียรตินาคินภัทร เป็นผู้แทนรับมอบรางวัลจาก ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ด้าน นายณฤทธิ์ โกสาลาทิพย์ กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าสายงานที่ปรึกษาและบริหารการลงทุนลูกค้าบุคคล KKP กล่าวว่า การเติบโตของ บล.เกียรตินาคินภัทรท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและตลาดหุ้นที่อ่อนแรง ไม่ได้เกิดจากโชค หากแต่เป็นผลลัพธ์ของการวางรากฐานและกลยุทธ์ที่มองไกลกว่าปัจจุบัน
ทั้งนี้ให้ความสำคัญกับแนวโน้มในอนาคต ทั้งพฤติกรรมนักลงทุน ทิศทางอุตสาหกรรม และความต้องการใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งต้องอาศัยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยี บุคลากร และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แม้จะกระทบกำไรระยะสั้น แต่กลายเป็นแต้มต่อที่ชัดเจนในระยะยาว
อีกทั้ง หนึ่งในจุดแข็งของ บล.เกียรตินาคินภัทร คือโครงสร้างธุรกิจที่หลากหลายและมีขนาดที่เหมาะสม รองรับลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มและช่วยกระจายความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น บริการ Wealth Management ที่เติบโตจากกระแสการลงทุนในต่างประเทศ และธุรกิจตราสารหนี้ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงที่นักลงทุนลดความเสี่ยงจากสินทรัพย์ในประเทศ
อย่างไรก็ตามหากเปรียบบริษัทเป็นเหมือนพอร์ตการลงทุน เราได้ออกแบบพอร์ตที่สมดุล มีสินทรัพย์หลากหลาย และบางประเภทเคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดในประเทศ ซึ่งช่วยให้เรายืนหยัดได้แม้ในสภาวะที่ตลาดไม่เอื้ออำนวย
สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะยังคงบริหารจัดการอย่างระมัดระวัง โดยเน้นการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดลำดับเซกเมนต์ลูกค้าที่ชัดเจน และมุ่งเน้นพื้นที่ที่เราสร้างมูลค่าได้จริง โดยจะเดินหน้าขยายโอกาสและทางเลือกลงทุน ที่สามารถกระจายความเสี่ยงออกจากตลาดในประเทศ ต่อยอดจากความร่วมมือกับ Goldman Sachs Asset Management เพื่อเปิดทางให้ลูกค้าลงทุนต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ ผ่านการจัดพอร์ตและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนชั้นนำที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างรอบด้าน
ด้าน นายสุกิตติ์ กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าสายงานหลักทรัพย์สถาบัน KKP กล่าวว่า เบื้องหลังความสำเร็จคือ 3 หัวใจหลัก ได้แก่ หนึ่ง การทำงานเป็นทีมโดยมีแนวคิดและความเชื่อร่วมกัน เช่น ความเชื่อในตลาดเสรี เทคโนโลยี และวัฒนธรรมองค์กรแบบแบน (Flat Organization) ที่เอื้อต่อการสื่อสารและการขับเคลื่อนอย่างคล่องตัว สอง ความละเอียดรอบคอบที่ทุกการตัดสินใจต้องผ่านการวิเคราะห์เชิงข้อมูลและมีตัวเลขรองรับ และสาม การยึดประโยชน์ของลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง โดยไม่ได้มองเป็นเพียงการให้บริการ แต่คือการสร้างพันธมิตรระยะยาว
นอกจากนี้ KKP ยังมุ่งยกระดับคุณภาพการให้บริการให้เทียบเท่าระดับสากล ด้วยกลยุทธ์การลงทุนทั้งในเทคโนโลยี บุคลากร และแพลตฟอร์มเทคโนโลยี มาสนับสนุนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าทั้งกลุ่มนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศ พร้อมขยายบริการให้ตอบโจทย์ตลาดทุนโลก
“รางวัลนี้ถือเป็นแรงผลักดันสำคัญและเป็นเครื่องยืนยันว่าแนวทางธุรกิจที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การให้บริการด้วยมาตรฐานสูงสุด และการดำเนินงานอย่างโปร่งใส คือแนวทางที่ถูกต้อง บริษัทจะไม่หยุดพัฒนาและเพื่อการยกระดับตลาดทุนไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันในระดับสากลได้”
ทั้งนี้ บลจ.เกียรตินาคินภัทร คว้า 2 รางวัลกองทุนยอดเยี่ยม จากผลงานการบริหารกองทุนที่โดดเด่นจนมีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมในรอบปี ซึ่งสองรางวัลที่ได้รับ ได้แก่
กองทุนเปิดเคเคพี อินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดทั่วไป (KKP INRMF) ได้รับรางวัล “กองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตราสารหนี้” โดยกองทุนนี้มีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 4 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนในประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีฐานะทางการเงินดี ทั้งสภาพคล่องระยะสั้นและเสถียรภาพทางการเงินระยะยาว
กองทุนเปิดเคเคพี พันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน (KKP GB THAI ESG) ได้รับรางวัล “กองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน” กองทุนนี้มีระดับความเสี่ยงระดับ 3 มุ่งเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้องกับ ESG พอร์ตการลงทุนมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนในด้าน Duration Management เพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่เหมาะสม
อย่างไรก็ดี KKP ยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการพัฒนาบุคลากร การนำเทคโนโลยีมาเสริมประสิทธิภาพการทำงาน และการเพิ่มบริการใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์นักลงทุนรายบุคคลและสถาบัน โดยมีเป้าหมายคือการเป็นพันธมิตรการลงทุนระยะยาวที่ลูกค้าไว้วางใจ รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นเกียรติยศ แต่ยังตอกย้ำถึงความพร้อมขององค์กรในการก้าวสู่อนาคตการเงินอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน