ITNS ลั่น! รายได้ปี 65 “ออลไทม์ไฮ” ตุนแบ็กล็อกแน่น-ประมูลงานใหม่ 1 พันล้าน

ITNS ปักหมุดรายได้ปี 65 “ออลไทม์ไฮ” โตแรง 45% ตุนแบ็กล็อกในมือกว่า 459 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าประมูลงานภาครัฐและเอกชนมูลค่า 1 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง


นายสมชาย อ่วมกระทุ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม จำกัด (มหาชน) หรือ ITNS เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 29 พ.ย.65 ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.28% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12,146 ล้านบาท เป็นผลมาจากบริษัทมีรายได้ 101.53 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักจากการจําหน่ายอุปกรณ์และให้บริการติดตั้ง และรายได้จากการให้บริการดูแล รวมถึงบํารุงรักษาระบบภายหลังการขาย

ขณะที่รายได้ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการให้เช่าอุปกรณ์  อีกทั้งจากภาวะโควิด-19 และ สถานการณ์ Ship Shortage แต่อย่างไรก็ตามด้วยการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีอย่างต่อเนื่อง จึงทําให้บริษัทมีกําไรขั้นต้นและกําไรสุทธิเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่มาจากงานโครงการของภาคเอกชน เนื่องจากบริษัทต้องการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ จึงวางกลยุทธ์ขยายงานไปยังกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนรายใหม่ เพื่อกระจายฐานลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทต่อไปในอนาคต

สําหรับผลประกอบการ 9 เดือนของปี 2565 บริษัทสามารถทํากําไรนิวไฮอยู่ที่ 39,270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.95% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23,522 จะเห็นได้ว่าบริษัทมีความสามารถในการทํากําไรขั้นต้นและกําไรสุทธิที่เพิ่มต่อเนื่องมา ตลอดจากในปี 2562 จนถึงปัจจุบันในส่วนของอัตรากําไรขั้นต้นและกําไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 2565 ที่สูงขึ้นเนื่องจากบริษัทมีโครงการที่ได้รับจากลูกค้ารายเดิมที่บริษัทมีความชํานาญในพื้นที่หน้างานทําให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2565 อยู่ที่ 540 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 45% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมั่นใจผลประกอบการของปี 2565 ทั้งในส่วนรายได้และกำไรมีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณงานในมือที่ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ประกอบกับบริษัท มีความสามารถในการควบคุมต้นทุนในการจัดจำหน่ายและการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมทั้งสิ้น 459 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงเหลือของปี 2565 ไปจนถึงปี 2570 อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหม่รวมมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท และมีงานที่เข้าร่วมประมูลแล้วรวมมูลค่าประมาณ 530 ล้านบาท พร้อมกันนี้มีงานที่รอคำสั่งซื้อ (สัญญา) รวมมูลค่าประมาณ 311 ล้านบาท คาดทยอยรู้ผลภายในเร็วๆ นี้

“สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 คาดว่าจะเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากดำเนินธุรกิจได้ตามแผนงานที่วางไว้ โดยทยอยรับรู้รายได้จากงานในมืออย่างต่อเนื่อง” นายสมชาย กล่าว

ทั้งนี้บริษัทเชื่อมั่นว่าจะมีรายได้ปี 2566 เติบโต 20-30% พร้อมเตรียมแผนการลงทุน M&A หรือทำ joint venture คาดดำเนินการเสร็จปี 2566

สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจบริษัทยังคงมุ่งมั่นในการขยายฐานรายได้และกำไรจากธุรกิจ System Integrator และธุรกิจ Maintenance ทั้งจากฐานลูกค้าเก่าและใหม่ ซึ่งมีการพัฒนาและปรับปรุงระบบ IT ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอด พร้อมกับเร่งขยายธุรกิจเดิมที่เป็นรายได้แบบ recurring ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสการขายไปยังกลุ่มลูกค้าที่มีข้อจำกัดทางการเงินและต้องการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีให้ทันสมัย และมีแผนการลงทุนในบริษัทที่มีธุรกิจที่สามารถช่วยส่งเสริมการขยายฐานตลาดของบริษัทอีกด้วย

นอกจากนี้ยังคงยึดมั่นในการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าในการใช้เทคโนโลยีในเชิงสร้างสรรค์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อมุ่งสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

Back to top button