“รฟม.” แจงยิบ! ประมูลสายสีส้ม ตามขั้นตอนกฎหมาย จวกยับนักวิจารณ์! บิดเบือนข้อมูล

“รฟม.” แจงยิบ! ประมูลสายสีส้ม ตามขั้นตอน-กระบวนการกฎหมาย รวมถึงมติคณะรัฐมนตรี จวกยับนักวิจารณ์! ให้ข้อมูลบิดเบือน ไม่เป็นกลาง สร้างความเสียหายต่อ รฟม.


การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการคัดเลือกเอกชนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)

โดยกล่าวอ้างว่าในการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสายสีเหลืองฯ ทำให้รัฐประหยัดเงินสนับสนุนกว่าโครงการละ 1 แสนล้านบาท แต่โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ รัฐอาจต้องเสียเงินค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท นั้นว่า

ข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลซึ่งได้มาจากการใช้ดุลยพินิจที่บิดเบือน ไม่เป็นกลาง และไม่พิจารณาข้อชี้แจงใดๆ ของ รฟม. สร้างความเสียหายต่อ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เรื่อยมา

ทั้งนี้ รฟม. ขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

ในการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง นั้น คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 ได้อนุมัติดำเนินงานทั้ง 2 โครงการ โดยกำหนดกรอบวงเงินสนับสนุนค่างานโยธา เป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ ไม่เกิน 20,135 ล้านบาท และสายสีเหลืองฯ ไม่เกิน 22,354 ล้านบาท ซึ่งผู้ชนะการคัดเลือกได้ยื่นข้อเสนอ โดยขอเงินสนับสนุนสุทธิสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ 19,823 ล้านบาท และสายสีเหลืองฯ 22,087 ล้านบาท

สำหรับการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 ได้อนุมัติการดำเนินงานโครงการ โดยกำหนดกรอบวงเงินสนับสนุนค่างานโยธาไม่เกิน 91,983 ล้านบาท ซึ่งผู้ชนะการคัดเลือกได้ยื่นข้อเสนอโดยขอเงินสนับสนุนสุทธิ 85,432 ล้านบาท

การเทียบข้อเสนอของเอกชนผู้ร่วมประมูล โดยนำมาหักลบกันตรงๆ ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นผลการประหยัดเงินของรัฐตามที่นักวิจารณ์ดังกล่าวกล่าวอ้างแต่อย่างใด เพราะในการประมูลโครงการภาครัฐนั้น มีกรอบวงเงิน มติคณะรัฐมนตรี และกฎเกณฑ์ในการดำเนินการที่กำหนดไว้ การวิเคราะห์ของนักวิจารณ์ดังกล่าว เป็นเพียงการนำตัวเลขมาเปรียบเทียบในลักษณะจับแพะชนแกะเท่านั้น และยังพยายามหยิบยกตัวเลขข้อเสนอที่มิได้ผ่านการตรวจสอบและพิจารณาตามเกณฑ์การประเมิน มากดดันภาครัฐ ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าตามระเบียบขั้นตอนของการประมูลภาครัฐนั้น จะไม่สามารถนำข้อมูลของผู้อื่นที่ไม่ได้ร่วมประมูลมาเปรียบเทียบได้ ซึ่งหากพิจารณาผลต่างระหว่างข้อเสนอของเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก และกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ จะมีผลสรุปได้ ดังนี้

กรอบวงเงินสนับสนุนตามมติ ครม.

– สายสีชมพู    20,135 ล้านบาท

– สายสีเหลือง 22,354 ล้านบาท

– สายสีส้ม      91,983 ล้านบาท

ข้อเสนอการขอรับการสนับสนุนสุทธิของเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก

– สายสีชมพูฯ   19,823 ล้านบาท

– สายสีเหลืองฯ 22,087 ล้านบาท

– สายสีส้มฯ      85,432 ล้านบาท

รัฐประหยัดเงินสนับสนุน          

– สายสีชมพูฯ   312 ล้านบาท

– สายสีเหลืองฯ 267 ล้านบาท

– สายสีส้มฯ   6,551 ล้านบาท

รฟม. ขอยืนยันว่า การดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการที่กฎหมาย รวมถึงมติคณะรัฐมนตรี และมติคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนกำหนดอย่างครบถ้วน ซึ่งปัจจุบันคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้พิจารณาข้อเสนอแล้วเสร็จ และสำนักงานอัยการสูงสุด อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจพิจารณาร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ โดย รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดใน พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ต่อไป

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็นส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)

Back to top button