“บล.พาย” คัด 17 หุ้นแลกการ์ด แนะจับตาประชุม “กนง.” พุธนี้

“บล.พาย” คัด 17 หุ้นแลกการ์ด ADVANC, INTUCH, BGRIM, GPSC, GULF, RATCH, CPN, AOT, CENTEL, ERW, MINT, SHR, SPA, BCH, BDMS, CHG และ PTTEP น่าสะสม แนะจับตาประชุม “กนง.”-ผลประกอบการ Q4/65


บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ Pi” ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ (20 ม.ค.66) ปรับตัวขึ้น 1% ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Tech ใน Nasdaq หลังจาก Netflix รายงานสมาชิกที่สูงขึ้น ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับเพิ่มขึ้น 1.7% รับแรงหนุนจากการเปิดเมืองของจีนหนุนอุปสงค์

โดยสัปดาห์นี้เชื่อว่าตลาดจะให้น้ำหนักกับ (1) ในคืนวันอังคารจะมีการดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคผลิตของฝั่ง EU ซึ่งตลาดคาดการณ์ระดับที่ต่ำกว่า 50 สะท้อนถึงภาคการผลิตที่ยังหดตัว มองเป็นลบต่อหุ้นที่มีรายได้ใน EU (KCE TU), (2) ในคืนวันพฤหัสบดีจะมีการรายงานยอดบ้านมือหนึ่งของสหรัฐฯ Bloomberg ประเมินที่ 6.12 แสนหลังคาเรือนพร้อมกับคำสั่งซื้อสินค้าคงแทน Bloomberg ประเมินไว้ที่ 2.4% จากเดือนก่อน

ส่วนในประเทศจะเน้นไปที่ (1) การประชุม กนง. ในวันพุธ คาดทราบผลอย่างเป็นทางการในช่วงบ่าย Bloomberg ประเมินไว้ว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ทดสอบระดับ 1.5%, (2) ภาวะการค้าระหว่างประเทศประจำเดือน ธ.ค. ในวันอังคาร Bloomberg คาดมูลค่าส่งออกหดตัว 9.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และนำเข้าหดตัว 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน พร้อมประเมินดุลการค้าจะขาดดุลราว 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากการส่งออกยังหดตัวตามที่ตลาดประเมินไว้ก็เท่ากับว่าหดตัวติดต่อกันมาแล้วราว 3 เดือนติดต่อ ยิ่งสะท้อนถึงภาพเศรษฐกิจโลกที่กำลังอ่อนแรงและสอดคล้องกับที่แต่ละธนาคารพาณิชย์รายงานใน MD&A ถึงความกังวลเศรษฐกิจถดถอย,

(3) การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/65 Bloomberg ประเมินว่า ในสัปดาห์นี้จะมี SCGP, SCC และ PTTEP หากรายงานต่ำกว่าตลาดประเมินไว้สูงจะกลับมาเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นและ SET ส่วนการตั้งสำรองของกลุ่ม Bank ในการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/65 มองเป็นปัจจัยเสี่ยงช่วงถัดไปเนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยช่วงระยะถัดไปอาจเผชิญกับความเสี่ยงของการอ่อนแรงจากเศรษฐกิจโลกและสอดคล้องกับภาคผลิตทั่วโลกที่ปัจจุบันเริ่มอ่อนแรงลง ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว SET สัปดาห์นี้ที่ 1,650 – 1,685 จุด

สำหรับเชิงกลยุทธ์การลงทุนไม่เพิ่มพอร์ตการลงทุนเช่นเดิมเพราะยังเสี่ยงกับภาวะถดถอยช่วงถัดไป ส่วนหุ้นแนะนำเน้นที่ Laggard Play ที่ Valuation ยังไม่แพงมาก อาทิ สื่อสาร (ADVANC, INTUCH) โรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF, RATCH) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SHR, SPA) โรงพยาบาล (BCH, BDMS, CHG) น้ำมัน (PTTEP)

อย่างไรก็ดี CPN แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 76 บาท โดยช่วงไตรมาส 4/65 ในแง่รายได้คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลดีของฤดูท่องเที่ยวและการรับรู้รายได้จากโรงแรมใหม่เต็มไตรมาส แต่ในแง่กำไรสุทธิคาดว่าจะอ่อนตัวลงเนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่จะเพิ่มขึ้น เบื้องต้นทางฝ่ายวิจัยคาดกำไรอยู่ที่ระดับ 2,500 ล้านบาท และทำให้กำไรทั้งปี 65 อยู่ที่ระดับ 10,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนปี 66 คาดกำไรจะขยายตัว 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ PTTEP แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 175 บาท โดยแนะนำ Trading ระยะสั้นเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง โดยช่วง 20 วันที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้นมากว่า 11% เป็นปัจจัยบวกต่อ PTTEP อย่างไรก็ตามแนะนำเพียงระยะสั้นเนื่องจากคาดกำไรปี 66 จะลดลง 13.50% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

Back to top button