สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ก.พ. 2566

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ก.พ. 2566


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 700 จุดในวันอังคาร (21 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของกิจกรรมทางธุรกิจในสหรัฐจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นเวลานานขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทค้าปลีก และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,129.59 จุด ร่วงลง 697.10 จุด หรือ -2.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,997.34 จุด ลดลง 81.75 จุด หรือ -2.00% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,492.30 จุด ดิ่งลง 294.97 จุด หรือ -2.50%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (21 ก.พ.) หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งได้กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า อัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นต่อไป แต่หุ้นเอชเอสบีซีทะยานขึ้นสวนทางตลาดหลังการเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสพุ่งขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 463.77 จุด ลดลง 0.87 จุด หรือ -0.19%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,308.65 จุด ลดลง 26.96 จุด หรือ -0.37%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,397.62 จุด ลดลง 79.93 จุด หรือ -0.52% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,977.75 จุด ลดลง 36.56 จุด หรือ -0.46%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (21 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มสร้างบ้าน ขณะที่การปรับตัวขึ้นของกิจกรรมทางธุรกิจภายในประเทศทำให้เกิดความวิตกว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,977.75 จุด ลดลง 36.56 จุด หรือ -0.46% โดยปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 8,000 จุด หลังจากปรับตัวทะลุระดับดังกล่าวในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ขณะที่เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น 0.6% กดดันตลาดด้วย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (21 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 76.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ 83.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (21 ก.พ.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 7.70 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,842.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น  17.50 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 21.89 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 27.20 ดอลลาร์ หรือ 2.95% ปิดที่ 948.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 28.20 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,520.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.31% แตะที่ 104.1723

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 134.95 เยน จากระดับ 134.14 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9274 ฟรังก์ จากระดับ 0.9245 ฟรังก์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3533 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3468 ดอลลาร์แคนาดา แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.3603 โครนา จากระดับ 10.4456 โครนา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0649 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0698 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2109 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2049 ดอลลาร์

Back to top button