จับตา “สายสีส้ม-แพ็กเกจอีวี” เข้าครม. ไฟเขียวทิ้งทวนก่อนยุบสภาฯ

คมนาคมดันสุดซอย! ชงครม.เคาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม 1.39 แสนล้านบาทวันนี้ ด้านคลังเสนอแพ็กเกจหนุนโรงแบตฯ กำลังผลิต 1-8 GWh เงินอุดหนุน 2.4 หมื่นล้านบาท ลดภาษีแบตฯ เหลือ 1% จาก 8% และต่อมาตรการอุดหนุนใช้รถ EV คันละไม่เกิน 1 แสนบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (14 มี.ค.) นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเสนอ ครม. เพื่อขออนุมัติผลการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงิน 139,127 ล้านบาท ที่มีบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จํากัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้ได้รับงาน ซึ่งตามขั้นตอนแล้วเมื่อครม.อนุมัติเห็นชอบตามที่เสนอ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ผู้รับผิดชอบโครงการก็จะมีการลงนามในสัญญากับ BEM ต่อไป แม้ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมีข้อพิพาทที่ยังไม่สิ้นสุดอีก 4 คดี

ขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันนี้กระทรวงจะเสนอมาตรการสนับสนุนการผลิตแบตเตอรี่ภายในประเทศ รวมทั้งมาตรการด้านภาษี และเงินสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ โดยการประชุมบอร์ดอีวีที่ผ่านมาได้เห็นชอบในหลักการของมาตรการสนับสนุนการผลิตแบตเตอรี่ ด้วยการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีสรรพสามิตจาก 8% ลดลงเหลือ 1% ส่วนมาตรการสำคัญ คือ การให้เงินสนับสนุนวงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท สำหรับการผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ในประเทศไทย โดยเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดตั้งแต่ 1-7.99 กิกะวัตต์-ชั่วโมง จะได้รับเงินสนับสนุนระหว่าง 400-600 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง หากเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาด 8 กิกะวัตต์-ชั่วโมงขึ้นไป จะได้รับเงินสนับสนุนระหว่าง 600-800 บาทต่อหน่วย นอกจากนี้มีการปรับวงเงินสนับสนุนมาตรการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ ครั้งที่ 3 จากเดิมกำหนดสูงสุดไม่เกินคันละ 150,000 บาท เหลือสูงสุดไม่เกินคันละ 100,000 บาท

โดยนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้ทำหนังสือยืนยันไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมแล้วว่าบริษัทมีความสามารถในการเพิ่มกำลังผลิตแบตเตอรี่ได้มากถึง 8 กิกะวัตต์-ชั่วโมง

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุถึงคาดการณ์กำไรปกติงวดไตรมาส 1/66 ของ EA จะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการส่งมอบรถ EV Bus และ EV Truck จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 105 บาท

ขณะที่บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า หุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย EA, GPSC, WHA และ NEX ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” GPSC ที่ราคาเป้าหมาย 85 บาท, WHA ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท และ NEX ให้ราคาเป้าหมาย 24 บาท

Back to top button