โชว์ 2 นิคมตัวเต็ง! รับ “ญี่ปุ่น” เล็งย้ายฐานผลิตเข้าไทย

จับตา WHA-AMATA ตัวเต็ง! รองรับ “ญี่ปุ่น” เล็งย้ายฐานผลิตเข้าไทยเพิ่ม ย้ำเป็นรายใหญ่มีบริการด้าน Infrastructure ที่ครบครัน พร้อมครอบครองที่ดินเปล่ารอพัฒนาเพียบ โบรกเคาะเป้า AMATA ที่ 27 บาท ส่วน WHA เป้าหมาย 4.70 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าและเศรษฐกิจ ไทย-ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ (16 มี.ค. 66) โดยสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น หรือ เคดันเร็น ได้ตกลงความร่วมมือในการค้าและการลงทุนกับเอกชนไทย เพื่อตอกย้ำความมั่นใจและความเชื่อมั่น เน้นหนักด้าน BCG และ Low Carbon Society อีกทั้งญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญกับประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตในอาเซียน และมีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทยเพิ่มขึ้นนั้น

ทั้งนี้ เบื้องต้นการย้ายฐานการผลิตของผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆหากญี่ปุ่นย้ายฐานกำลังผลิตมาไทยเต็มตัว ทำให้หลายฝ่ายมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีมุมมองเชิงบวกต่อยอดขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม เชื่อว่าหลายบริษัทได้เจรจาขายที่ดินให้ลูกค้าแล้ว เหลือเพียงแค่กระบวนการเดินทางเข้าประเทศมาตรวจสอบพื้นที่และการโอนที่ดินเท่านั้น

โดยเฉพาะบริษัทนิคมฯที่จะได้รับประโยชน์เด่นคงเลี่ยงไม่พ้นบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ  WHA และ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการนิคมฯรายใหญ่ มีบริการด้าน Infrastructure ที่ครบครัน และครอบครองที่ดินเปล่ารอการพัฒนาไว้ค่อนข้างมากในการรอรับการขยายภาคการผลิต

ด้านราคาหุ้นบนกระดานของกลุ่มนิคมฯ โดยเฉพาะ WHA และ AMATA หลังจากประกาศข่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าและเศรษฐกิจ ไทย-ญี่ปุ่น สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น หรือ เคดันเร็น ได้ตกลงความร่วมมือในการค้าและการลงทุนกับเอกชนไทย พบว่า ราคาหุ้นนิคมฯก็วิ่งตอบรับทันฟันร้อนแรงจนล่าสุดเมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค. 66) สำหรับ WHA ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 4.20 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 1.94% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 808.76 ล้านบาท ขณะที่ AMATA ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 22.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 1.83% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 328.90 ล้านบาท

บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (7 มี.ค. 66) โดยประมาณหุ้น WHA ว่ากำไรปกติปี 2566 อยู่ที่ 3.86 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ซึ่งเป็นผลของ 1) ยอด transfer ที่สูง 1.3 พันไร่ จาก presale ที่จะอยู่ใน ระดับสูงที่ 1.6 พันไร่ จากการเข้ามาลงทุนของผู้ประกอบการ EV ที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้า EV cluster ที่อยู่ระหว่างการเจรจามากกว่า 3-4 ราย และคาดจะเห็นความชัดเจนในครึ่งแรกของปี 2566 จำนวน 8-900 ไร่

นอกจากนี้ยังมี Backlog ปี 2565 ที่เพิ่มขึ้นเป็น 468 ไร่ และนิคม Nghe An จะกลับมาขายที่ดินได้เพิ่มขึ้น ภายหลังนิคม phase II ได้รับ IRC ช่วงปลายปี 2566 รวมถึงรับรู้ส่วนแบ่งกำไร จากธุรกิจไฟฟ้าที่ดีขึ้น ตามค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น ควบคู่ต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ทรงตัว

อย่างไรก็ตาม WHA ยังมีตัวเร่งที่น่าสนใจจากยอด presale ที่จะเพิ่มขึ้น และทรงตัวในระดับสูง 2-3 ปีข้างหน้า หนุนโดยการกลับมาลงทุน ประกอบกับได้ผลบวกจากมาตรการส่งเสริมการผลิต/ขายรถ EV ในประเทศ และมาตรการส่งเสริมแบตเตอรี่รถ EV ที่ช่วยหนุนให้ผู้ผลิตเร่งลงทุนในปี 2566-2567 แนะนำ ซื้อราคาเป้าหมาย 4.50 บาท

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.พ. 66) ว่า แม้ผลประกอบการจะมีแนวโน้มลดลงในปี 2566 แต่เชื่อว่ากระแสข่าวการขายที่ดินแปลงใหญ่ วางเป้าขายปีนี้จำนวน 1,750 ไร่ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยปีละ 1,200 ไร่แนะนำ ซื้อราคาเป้าหมาย 4.70 บาท

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ( 15 มี.ค. 66) คาดการณ์กำไรสุทธิของ AMATA ว่าในช่วงปี 2565-2568 จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.5% จาก 2,341 ล้านบาท เป็น 2,908 ล้านบาท ในปี 2568 หลังจากที่สายการบินประเทศต่างๆ กลับมาเปิดให้บริการ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศปรับเพิ่มขึ้น และทำให้นักลงทุนสามารถเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมพื้นที่ในนิคมฯ และตัดสินใจทำสัญญาซื้อได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินว่ายอดการโอนที่ดินจะเติบโตทั้งในประเทศและนอกประเทศ โดยบริษัทร่วมทุน ไทย-จีน จะเปิดนิคมฯ แห่งใหม่ที่หนองละลอก จ.ระยอง ภายในครึ่งแรกของปี 2566 โดยมีพื้นที่ขาย 1,500 ไร่ และ AMATA นําที่ดินขนาด 700 ไร่ ที่อมตะสมาร์ท ซิตี้ จ.ชลบุรี ออกมาขายจากแผนเดิมที่จะให้เช่าระยะยาว

สําหรับที่ดินที่ Ha Long และ Long Tan ประเทศเวียดนาม เกิดความล่าช้าจากการออกใบอนุญาต ส่งผลให้ต้องเลื่อนออกไปจากแผนเดิมที่วางไว้ช่วง ไตรมาส 4 ปี 2565 แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าจะออกใบอนุญาตได้ทันในไตรมาส 1 ปี 2566 ทั้งนี้เชื่อว่าจะส่งผลให้ยอดขายที่ดินและรายได้จากการขายที่ดินจะเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้

ขณะเดียวกันด้วยอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตที่เกิดจากความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่าง สหรัฐ จีน ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติย้ายฐานการผลิตเข้ามาและหนุนให้ AMATA มีรายได้จากการโอนที่ดินในปี 2566 เติบโต

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 27 บาท

Back to top button