TU เปิดงบ Q1/66 กำไรพันล้าน รับ “เรด ล็อบสเตอร์” ฟื้นตัวแกร่ง

TU รายงานงบไตรมาส 1/66 กำไร 1,022 ล้านบาท รับธุรกิจ "เรด ล็อบสเตอร์" ฟื้นตัวแกร่ง หนุนส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น เดินหน้าลงทุน 6-6.5 พันล้านบาท ขยายทุกธุรกิจ


บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/66 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.66 ดังนี้

โดยผลประกอบการประจำไตรมาส 1/66 เรด ล็อบสเตอร์ ธุรกิจร้านอาหารทะเลระดับโลกให้สัญญาณบวก โดยได้รับส่วนแบ่งผลกำไร 121 ล้านบาท เมื่อเทียบกับส่วนแบ่งขาดทุนจำนวน 243 ล้านบาทในไตรมาส 1/65

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,022 ล้านบาท ลดลง 41.5% จาก 1,746 ล้านบาทในปีก่อนหน้า สาเหตุหลักจากการที่รายงานการเงินในปี 2566 มี 2 รายการที่ไม่สามารถเทียบได้ที่ถูกบันทึกในปี 2565 ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมจากหุ้นบุริมสิทธิ เรด ล็อบสเตอร์ จำนวน 239 ล้านบาท (หลังหักภาษี) ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากหุ้นบุริมสิทธิดังกล่าวเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูง

รวมทั้งส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากบริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC จำนวน 200 ล้านบาท เนื่องจาก ITC ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ทำให้สัดส่วนหุ้นที่ TU ถือครองมีจำนวนลดลงจาก 99.5% เหลือ 77.8% ดังนั้น หากเปรียบเทียบกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 กับปีที่แล้วที่ไม่นับรวมสองรายการนี้ กำไรสุทธิจะลดลง 21.8%

สำหรับยอดขายประจำไตรมาสของบริษัทฯ อยู่ที่ 32,652 ล้านบาท ลดลง 10%  เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่ยอดขายมีความแข็งแกร่ง เป็นไปตามคาดการณ์ของบริษัท สาเหตุจากความต้องการสินค้าปรับตัวลงทั่วโลกจากการที่คู่ค้าในภูมิภาคต่างๆ มีปริมาณสินค้าคงคลังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นทำให้การสั่งซื้อสินค้าชะลอตัวลง

ทั้งนี้ นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TU กล่าวว่า คาดการณ์ไว้ว่าไตรมาส 1/66 จะเป็นไตรมาสอ่อนตัวที่สุด เป็นผลสืบเนื่องมาจากยอดขายอยู่ในอัตราที่สูงในปีที่ผ่านมา สินค้าคงคลังของลูกค้าอยู่ในระดับที่สูง และสถานการณ์ค่าขนส่งปรับตัวสู่ภาวะปกติ  อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าปี 66 สามารถกลับมามีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเริ่มมีสัญญาณที่เป็นบวกในไตรมาส 2/66 และคาดว่าสถานการณ์ต่างๆ จะกลับสู่สภาวะปกติในช่วงครึ่งหลังของปี จากกระแสการบริโภคอาหารทะเลและโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก

ในไตรมาสแรกนี้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทได้ลดลงถึง 12.1% เหลือ 4,121 ล้านบาท จากการที่ค่าใช้จ่ายในการขนส่งปรับตัวดีขึ้นเข้าสู่สภาวะปกติ ผลจากการที่ตลาดทั่วโลกมีสินค้าคงคลังอยู่ในปริมาณที่สูงและราคาปลาที่สูงทำให้ความต้องการสินค้าต่างๆ ปรับตัวลง รวมถึงยอดขายในไตรมาสแรกของธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋องของไทยยูเนี่ยนที่ลดลง 1.9%อยู่ที่ระดับ 15,225 ล้านบาท และยอดขายของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงลดลง 21.9% อยู่ที่ระดับ 3,495 ล้านบาท  ซึ่งบริษัทคาดว่าความต้องการสินค้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์สินค้าคงคลังที่มีอยู่มากได้ค่อยๆ คลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นมียอดขายอยู่ที่ระดับ 11,684 ล้านบาท ลดลง 15.3%จากการปรับตัวของราคาอาหารทะเลในตลาดสู่ภาวะปกติและยอดขายในปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูง  สำหรับธุรกิจสินค้ามูลค่าเพิ่มและธุรกิจอื่นๆ มียอดขายอยู่ที่ 2,248 ล้านบาท ลดลง 9.5% แต่ยังสามารถคงอัตรากำไรขั้นต้นได้แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 27.3%  ไทยยูเนี่ยนยังได้เปิดตัวสินค้าใหม่ที่พัฒนาด้วยนวัตกรรมของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดผู้บริโภคในวงกว้างขึ้น อาทิ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทูน่าจากพืช ภายใต้แบรนด์ จอห์น เวสต์ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ และ เรด ล็อบสเตอร์ ได้เปิดตัวสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งเป็นครั้งแรก ซึ่งมีวางจำหน่ายในร้านค้ากว่า 5 พันแห่งและออนไลน์ทั่วสหรัฐอเมริกา

ในด้านยอดขายจากตลาดต่างๆ ทั่วโลกนั้น ไทยยูเนี่ยนมีสัดส่วนยอดขายตามภูมิภาคมีดังนี้ สหรัฐอเมริกาและแคนาดาอยู่ที่ 43 เปอร์เซ็นต์ ยุโรป 26%ประเทศไทย 12% และภูมิภาคอื่นๆ 19%

“เรายังคงมุ่งเน้นเรื่องความสามารถในการทำกำไร การดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศ และวินัยทางการเงิน เดินหน้าธุรกิจเราอย่างเต็มที่ตลอดปีนี้  สถานะทางการเงินของไทยยูเนี่ยนแข็งแกร่งด้วยสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 0.57 เท่า ซึ่งดีกว่าเป้าหมายของเราที่ตั้งไว้ที่ระดับ 1-1.1 เท่า เปิดโอกาสให้เราสามารถมองไปข้างหน้าสู่การลงทุนใหม่ๆ ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่จะตอบโจทย์ด้านกลยุทธ์ให้กับบริษัท” นายธีรพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงลงทุนในโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุน 6-6.5 พันล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจในทุกประเภท มีการก่อสร้างโรงงาน 3 แห่งในจังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ โรงงานผลิตอาหารพร้อมทาน ติ่มซำและสินค้าเบเกอรี่  โรงงานผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสตและคอลลาเจน เป็ปไทด์ และโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกและขนมทานเล่นที่มีไลน์การบรรจุหีบห่อแบบอัตโนมัติ และห้องเย็นอีกหนึ่งแห่งในประเทศกาน่า

Back to top button