“หุ้นเอเชีย” รีบาวด์ รับหุ้นแบงก์ฟื้น-จ้างงานสหรัฐแกร่ง

“ตลาดหุ้นเอเชีย” เปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้  โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด

สำหรับดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 20,128.18 จุด เพิ่มขึ้น 78.87 จุด หรือ +0.39% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ระดับ 3,340.99 จุด เพิ่มขึ้น 6.49 จุด หรือ +0.19% ส่วนดัชนีนิกเกอิเปิดที่ระดับ 29,095.46 จุด ลดลง 62.49 จุด หรือ -0.21% เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้หุ้นกลุ่มส่งออกถูกเทขายในช่วงเช้าวันนี้

ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดบวก 0.47% ขณะที่ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดบวก 0.62%

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 พ.ค.66) ดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาคของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.7% นำโดยหุ้นแพคเวสต์ แบงคอร์ป ทะยานขึ้น 81.7% และหุ้นเวสเทิร์น อัลไลแอนซ์ แบงคอร์ป พุ่งขึ้น  49.2%

ด้าน กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 253,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.4% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจอยู่ที่ 3.6% และทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2512

ด้านนักลงทุนจับตาข้อมูลการค้าจีนในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.66) ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า จีนจะมียอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ระดับ 7.43 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ลดลงจากระดับ 8.82 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.

ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่า ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ของจีนจะปรับตัวขึ้นเพียง 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 14.8% และคาดว่ายอดนำเข้าจะทรงตัวในเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดย นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กจะกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐนิวยอร์กในวันอังคารนี้ ขณะที่นายฟิลลิป เจฟเฟอร์สัน ผู้ว่าการเฟด และนายเจมส์ บูลลาร์ ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์จะกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาว่าด้วยเรื่องนโยบายการเงินซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในวันศุกร์นี้

Back to top button