เครือ “ปตท.” โกยกำไร Q1 กว่า 5 หมื่นล้าน ค้าปลีก-ปิโตรฟื้น

วันนี้จับตางบไตรมาสแรก PTT โบรกฯ 20 แห่งประเมินกำไรสุทธิ 26,351 ล้านบาท ธุรกิจโรงกลั่น-ปิโตรเคมีฟื้นตัว ราคาเป้าหมาย 39.82 บาท ล่าสุดงบไตรมาส 1 “โออาร์” ค้าปลีกโดดเด่น ดันกำไรสุทธิพุ่ง 3 พันล้านบาท โต 100% จากไตรมาสก่อน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 พ.ค. 66) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT จะแจ้งผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 โดย Consensus จาก 20 โบรกเกอร์ทั้งไทยและต่างประเทศ ประมาณการว่าจะมีกำไรสุทธิ 26,351 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ลดลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่บริษัทมีรายได้ 747,950 ล้านบาท ราคาเป้าหมาย 39.82 บาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรของ PTT ไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 2.47 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 1.78 หมื่นล้านบาท แต่ลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยกำไรที่ลดลงมาจากกำไรจากบริษัทลูก ได้แก่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ลดลง เมื่อนำมาหักล้างจะพอดีกับกำไรที่เพิ่มขึ้นของบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP

ขณะที่กำไรไตรมาส 1/2566 ที่ฟื้นตัวขึ้น จากไตรมาส 4/2565 เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทลูกในตลาดทั้ง 6 บริษัทดีขึ้น เนื่องจากไม่มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 205 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก PTTEP และ market GRM และค่าการตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน

สำหรับงบเดี่ยวของ PTT คาดว่ากำไรจากธุรกิจ Transportation Margins (T&M) และโรงแยกก๊าซ (GSP) จะฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากปริมาณยอดขายก๊าซธรรมชาติ (NG) เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน เป็น 4,078 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพราะอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และเป็นช่วง low season ของการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า ในเดียวกันราคา polyethylene (PE) ดีดตัวขึ้นในไตรมาส 1/2566 นอกจากนี้ ราคาขาย NGV ยังเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน เป็น 17.60 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ธุรกิจ NGV ขาดทุนลดลงในไตรมาส 1/2566

อย่างไรก็ตาม ได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 ลง 8% เหลือ 9.67 หมื่นล้านบาท พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายปีนี้ลงเหลือ 41 บาท จากเดิมที่ 43 บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรลง  ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด คาดว่ากำไรรวมไตรมาส 1/2566 จะเพิ่มขึ้น เป็น 2.77 หมื่นล้านบาท หนุนจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมันที่ลดลงของบริษัทในเครือภายใต้ธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี ค่าการตลาดขายปลีกน้ำมันที่ฟื้นตัว ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่ลดลงตามฤดูกาล และการป้องกันความเสี่ยงขาดทุนของ PTTEP

ขณะที่ บริษัทในเครือบมจ.ปตท. ทั้ง 6 แห่ง ที่ทยอยประกาศงบไตรมาสที่ 1/2566 มาแล้ว โดยมีกำไรสุทธิรวมกันแล้วกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท ได้แก่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP มีกำไรสุทธิ 19,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มีรายได้รวม 78,438 ล้านบาท

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP กำไรสุทธิ 4,554 ล้านบาท ลดลง 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 2,998% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มีรายได้รวม 116,819 ล้านบาท

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC มีกำไรสุทธิ 82 ล้านบาท ลดลง 97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 88% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มีรายได้รวม 148,146 ล้านบาท

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR มีกำไรสุทธิ 2,975 ล้านบาท ลดลง 22.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน  มีรายได้รวม 197,414 ล้านบาท

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC มีกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท ลดลง 80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 104% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มีรายได้รวม 81,430 ล้านบาท

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC มีกำไรสุทธิ 1,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 257% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 356% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มีรายได้รวม 27,905 ล้านบาท

Back to top button