“สนค.” เปิดแดชบอร์ด “กุ้งขาว” ติดอาวุธ “เอกชน” แข่งขันเวทีโลก

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดแดชบอร์ด “กุ้งขาว” นำเสนอข้อมูล ให้ผู้ประกอบการวางแผนแข่งขันในตลาด


นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หรือ สศก. จัดทำแดชบอร์ดสินค้าเกษตร ภายใต้นโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ล่าสุด ได้เผยแพร่แดชบอร์ดกุ้งขาวแวนนาไม (กุ้งขาว) โดยรวบรวมข้อมูลตั้งแต่การผลิต ราคา ตลาดส่งออกของไทย และโอกาสในการขยายการส่งออก ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www. คิดค้า .com

โดยในปี 2565 ไทยมีผลผลิตกุ้งขาวประมาณ 2.4 แสนตัน ลดลงร้อยละ 0.07 จากปีก่อนหน้า มีพื้นที่เพาะเลี้ยงทั่วประเทศกว่า 2.7 แสนไร่ และมีจำนวนฟาร์ม 22,336 แห่ง ผลผลิตส่วนใหญ่มาจากภาคใต้ รองลงมา คือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง สำหรับ 3 จังหวัดแรก ที่มีผลผลิตสูงสุด คือ สุราษฎร์ธานี 40,950 ตัน ฉะเชิงเทรา 20,356 ตัน และตรัง 18,740 ตัน โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 มีผลผลิตกุ้งขาวทั่วประเทศ ประมาณ 4.5 หมื่นตัน ลดลงร้อยละ 2.14 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ราคา พบว่าในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 ราคาเฉลี่ยกุ้งขาวของไทยที่เกษตรกรขายได้ (ขนาด 51-60 ตัว/กิโลกรัม) อยู่ที่ 175.6 บาท/กิโลกรัม ซึ่งราคากุ้งปากบ่อของประเทศผู้นำตลาด (ขนาด 50 ตัว/กิโลกรัม) เช่น เอกวาดอร์ และอินเดีย มีราคาต่ำกว่าไทย (106.5 และ 137.5 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ) ขณะที่ เวียดนามมีราคาสูงกว่าไทย (180.3 บาท/กิโลกรัม)

สำหรับการส่งออกของไทย ในปี 2565 ไทยส่งออกกุ้งขาวและผลิตภัณฑ์ เป็นปริมาณ 98,800.1 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,072.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 83.4 จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) กุ้งขาวมีชีวิต สด แช่เย็น และแช่แข็ง 576.91 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 784 2) กุ้งขาวปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย ไม่บรรจุในภาชนะที่อากาศผ่านไม่ได้ 174.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 17.8 และ 3) กุ้งขาวปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย บรรจุในภาชนะที่อากาศผ่านไม่ได้ 320.88 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 5.3 ตลาดส่งออกสำคัญของไทย คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณามูลค่าการส่งออกของไทย พบว่า มากกว่าร้อยละ 50 เป็นการส่งออกในรูปแบบกุ้งขาวมีชีวิต สด แช่เย็น และแช่แข็ง ซึ่งเป็นเพียงการผลิตขั้นต้น ดังนั้น ไทยยังสามารถพัฒนาไปสู่การผลิตสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูงขึ้น หลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคา กับเอกวาดอร์ อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกในรูปแบบกุ้งแช่แข็ง

ขณะที่จีนส่งออกกุ้งปรุงแต่งในสัดส่วนที่มากกว่า ซึ่งพบว่าราคาส่งออกเฉลี่ยของโลก (ข้อมูลปี 2563 ล่าสุด) ของสินค้า 3 กลุ่ม ดังนี้ 1) กุ้งมีชีวิต สด แช่เย็น แช่แข็ง มีมูลค่า 6,972 เหรียญสหรัฐ/ตัน 2) กุ้งปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย ไม่บรรจุในภาชนะที่อากาศผ่านไม่ได้ มีมูลค่า 9,876 เหรียญสหรัฐ/ตัน และ 3) กุ้งปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย บรรจุในภาชนะที่อากาศผ่านไม่ได้ มีมูลค่า 10,628 เหรียญสหรัฐ/ตัน

ทั้งนี้ ภาครัฐไทยกำหนดเป้าหมายเพิ่มผลผลิตกุ้งทะเลให้ได้ถึง 4 แสนตัน ในปี 2566 และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาโรคระบาด การเข้าถึงสินเชื่อของเกษตรกร สร้างช่องทางการขาย และนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นอกจากนี้ สนค. เห็นว่า ผู้ประกอบการควรมุ่งผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น และไทยต้องเร่งพัฒนาสู่การเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูงต่อไป

Back to top button