กรมรางฯ ชง รฟม. เปิด “สายสีชมพู” ช่วง “มีนบุรี-หลักสี่” ใช้งานก่อน

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เตรียมเสนอ รฟม.เปิดใช้งานรถไฟฟ้า “สายสีชมพู” ช่วง “มีนบุรี-หลักสี่” ก่อน เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด หลังสถานีแจ้งวัฒนะ 14 - สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ ไม่สามารถสร้างทางลงได้


นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้าง พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี เพื่อรวบรวมและหารือแนวทางแก้ไข ให้สามารถเปิดให้บริการได้โดยเร็ว พบว่า ช่วงสถานีแจ้งวัฒนะ 14 (PK11) ถึงสถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ (PK13) ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างทางขึ้น-ลง ฝั่งขาออกมุ่งหน้าแยกแครายได้ เนื่องจากติดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับโครงการของหน่วยงานอื่น ทำให้การก่อสร้างล่าช้า

ซึ่งกรมการขนส่งทางรางเสนอให้เปิดให้บริการบางส่วนก่อน เช่น จากสถานีหลักสี่ ถึงสถานีมีนบุรี เพื่อเป็น Feeder ให้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว และรถไฟชานเมืองสายสีแดง รวมถึงบรรเทาปัญหาจราจรแออัด โดยข้อเสนอดังกล่าว การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ต้องประเมินความเป็นไปได้ทั้งด้านเทคนิค ด้านความปลอดภัย และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทาง

สำหรับส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช ถึงเมืองทองธานี ระยะทาง 3.2 กิโลเมตร (กม.) 2 สถานี ได้แก่ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี (MT01) ตั้งอยู่บริเวณวงเวียนอิมแพ็คฯ และสถานีทะเลสาบเมืองทองธานี (MT02) ตั้งอยู่บริเวณข้างทะเลสาบเมืองทองธานี ใกล้ธันเดอร์โดม เมื่อโครงการฯ แล้วเสร็จ เชื่อว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางมาเที่ยวชมงานแสดงหรือการแข่งขันกีฬาที่จัดขึ้น และช่วยลดปริมาณการจราจรบนท้องถนนบริเวณนี้ได้อย่างมาก

นายอธิภู ยังระบุว่า ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความคืบหน้าแล้วกว่า 96.43% ในเส้นทางหลัก และ 20.41% ในช่วงส่วนต่อขยาย โดยกรมการขนส่งทางราง จะเร่งผลักดันให้เปิดให้บริการได้โดยเร็ว อย่างน้อยในเส้นทางหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนที่ต้องการเดินทางมาติดต่อราชการ หรือธุระต่างๆ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าถนนแจ้งวัฒนะ ไปจนถึงถนนรามอินทรา ถือเป็นถนนที่มีการจราจรติดขัดสูงเป็นลำดับต้นๆ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ที่เปิดให้บริการแล้ว และกำลังจะเปิดให้บริการ หรือกำลังก่อสร้างอยู่นั้น จะมีส่วนช่วยในการลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน ลดการจราจรติดขัด รวมทั้งลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ได้.

Back to top button