หึ่ง “ต้อย ท็อปนิวส์” เทกช่อง 18! จ่าย 500 ล้านต่อลมหายใจ JKN คืนหนี้หุ้นกู้ชุดแรก

สะพัด! “สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม” ทุ่ม 500 ล้าน เทกโอเวอร์ช่อง 18 พร้อมแบกหนี้ 3 พันล้าน ฟาก JKN เตรียมนำเงินจ่ายคืนหุ้นกู้ชุดแรก ประวิงรุ่นอื่น Call Default พนักงานเดิมแตกฮือ คนจาก “ท็อปนิวส์” เสียบตำแหน่งแทนเริ่ม 18 ก.ย.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวภายในสถานีโทรทัศน์ JKN18 เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า กำลังมีการเจรจาระหว่างกลุ่มสถานีโทรทัศน์ TOPNEWS ของ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม กับกลุ่มบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ของ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เพื่อเข้ารับช่วงต่อในกิจการสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล โดยเบื้องต้นจะเกิดการซื้อขายกันในวงเงิน 500 ล้านบาท และมีรายงานว่า สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้แล้ว โดยที่จะเตรียมแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566

ทั้งนี้ รูปแบบการเข้ามาดำเนินการภายในสถานีโทรทัศน์ JKN18 ของกลุ่ม TOPNEWS จะเข้ามาในรูปแบบเป็นผู้ร่วมผลิตรายการข่าวกับทางสถานี เพื่อหลีกเลี่ยงข้อบังคับของ กสทช. ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของบริษัทผู้รับใบอนุญาต เนื่องจากมีการกำหนดสัดส่วนผังรายการของ กสทช. ที่กำหนดให้เจ้าของสถานีต้องมีเวลาผลิตรายการเองมากกว่าให้เช่าเวลา แต่หากว่าเป็นการร่วมผลิต ทาง กสทช.เปิดช่องให้สามารถทำได้โดยไม่มีกำหนด จึงทำให้  TOPNEWS ไม่สามารถมาในฐานะผู้เช่าเวลาของสถานี

แหล่งข่าวคนดังกล่าวยังเปิดเผยว่า ในส่วนของพนักงานในฝ่ายข่าวนั้น ทางสถานีโทรทัศน์ JKN18 ได้มีหนังสือบอกเลิกการจ้างงาน โดยจะปฏิบัติงานวันสุดท้ายคือวันที่ 15 กันยายน 2566  โดยทีมงานของ TOPNEWS จะเริ่มปฏิบัติและจะเริ่มปฏิบัติและออกอากาศในรายการข่าวในวันที่ 18 กันยายน 2566

ส่วนการเปลี่ยนชื่อสถานี กำลังมีการพิจารณาข้อกำหนดของ กสทช. ในเรื่องนี้ โดยแหล่งข่าวภายในกลุ่ม TOPNEWS เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า หากพิจารณากฎระเบียบของ กสทช.แล้วไม่มีข้อกฎหมายที่ติดขัดก็จะเปลี่ยนชื่อสถานี ซึ่งคาดว่าจะใช้ชื่อ TOPNEWS 18

สำหรับการปรับผังรายการของสถานีโทรทัศน์ JKN18 ทาง TOPNEWS จะเข้ามาทำข่าวในทุกช่วงของสถานี พร้อมกับทีมงาน ผู้ประกาศ ส่วนทาง JKN จะทำรายการส่วนที่เป็นภาคบันเทิง สารคดี ภาพยนตร์ เนื่องจากมีรายการกลุ่มนี้อยู่ในมือแล้ว

แต่ทั้งนี้ในส่วนรายการขายตรงซึ่งทั้ง JKN และ TOPNEWS ต่างมีรายการดังกล่าวเป็นของตัวเอง และสามารถทำรายได้ให้กับทั้ง 2 กลุ่ม โดย JKN มีรายการขายตรง Hi Shopping ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากกลุ่มฮุนได ของเกาหลีใต้ ส่วน TOPNEWS มีผู้เช่าเวลาทำรายการตรง โดยเบื้องต้นมีรายงานว่า JKN ตัดสินใจปิดรายการ Hi Shopping ในสถานี เพื่อเปิดทางให้ TOPNEWS ทำรายการในส่วนนี้ต่อไป โดยที่ทาง JKN จะนำสินค้าขายตรงไปฝากขายในช่อง TV Direct ของบริษัท ทีวีดี โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVDH

สำหรับอายุใบอนุญาตทีวีดิจิตอลของสถานีโทรทัศน์ JKN18 จะสิ้นสุดลงในปี 2572 หรือประมาณ 5 ปีนับจากนี้ ซึ่งเป็นใบอนุญาตที่ JKN ได้ซื้อต่อจาก บริษัท ดีเอ็น บรอดแคสติ้ง จำกัด ของกลุ่มเหตระกูล และทำช่อง NEWS18 เป็นช่องข่าว ความคมชัดปกติ  โดย JKN เสนอราคาในขณะนั้นที่ 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากดีลดังกล่าวมีการคาดการณ์ว่า JKN จะนำเงินที่ได้มาจ่ายคืนหุ้นกู้ JKN239A ที่เหลืออีก 443 ล้านบาท ก่อนจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ดียังมีหุ้นกู้อีก 6 ชุดที่รอการพิจารณาของผู้ถือหุ้นกู้ในชุดแรกประกอบด้วย

1.JKN243A มูลค่า 300 ล้านบาท : ออกเมื่อ 1 ก.พ. 2565 ครบกำหนดไถ่ถอน 15 มี.ค. 2567 อัตราดอกเบี้ย 6.55% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยผิดนัด 2% ต่อปี กำหนดต้องชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน โดยจะชำระทุกวันที่ 15 พ.ค., 15 ส.ค. และ 15 พ.ย. ตลอดอายุของหุ้นกู้

2.JKN246A มูลค่า 578.60 ล้านบาท : ออกเมื่อ 10 มิ.ย. 2565 ครบกำหนดไถ่ถอน 10 มิ.ย. 2567 อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยผิดนัด 2% ต่อปี กำหนดต้องชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน โดยจะชำระทุกวันที่ 10 มี.ค., 10 ก.ย. และ 15 ธ.ค. ตลอดอายุของหุ้นกู้

3.JKN240A มูลค่า 400 ล้านบาท: ออกเมื่อ 20 ต.ค. 2565 ครบกำหนดไถ่ถอน 20 ต.ค. 2567 อัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยผิดนัด 2% ต่อปี กำหนดต้องชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน โดยจะชำระทุกวันที่ 20 ม.ค., 20 เม.ย., 20 ก.ค. และ 20 ต.ค. ตลอดอายุของหุ้นกู้

4.JKN24NA มูลค่า 800 ล้านบาท : ออกเมื่อ 1 พ.ย. 2565 ครบกำหนดไถ่ถอน 11 พ.ย. 2567 อัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยผิดนัด 2% ต่อปี กำหนดต้องชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน โดยจะชำระทุกวันที่ 15 ก.พ., 11 พ.ค., 11 ส.ค. และ 11 พ.ย. ตลอดอายุของหุ้นกู้

5.JKN252A มูลค่า 525 ล้านบาท : ออกเมื่อ 24 ก.พ. 2566 ครบกำหนดไถ่ถอน 24 ก.พ. 2568 อัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยผิดนัด 2% ต่อปี กำหนดต้องชำระดอกเบี้ยวันที่ 24 ก.พ., 24 พ.ค., 24 ส.ค. และ 24 พ.ย. ของทุกปีตลอดอายุของหุ้นกู้

6.JKN255A มูลค่า 156.60 ล้านบาท: ออกเมื่อ 24 ก.พ. 2566 ครบกำหนดไถ่ถอน 10 พ.ค. 2568 อัตราดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยผิดนัด 2% ต่อปี กำหนดต้องชำระดอกเบี้ยวันที่ 15 ก.พ., 10 พ.ค., 10 ส.ค. และ 10 พ.ย. ของทุกปีตลอดอายุของหุ้นกู้

นอกจากนี้ จากการสำรวจงบกระแสเงินสด JKN ช่วงปี 61-65 พบว่าปี 61 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานอยู่ที่ 654 ล้านบาท ปี 62 อยู่ที่ 461 ล้านบาท ปี 63 อยู่ที่ 1,440 ล้านบาท ปี 64 อยู่ที่ 512 ล้านบาทและปี 65 อยู่ที่ 1,117 ล้านบาท ขณะที่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุนปี 61 ติดลบ 1,293 ล้านบาท ปี 62 ติดลบ 973 ล้านบาท ปี 63 ติดลบ 2,020  ล้านบาท ปี 64 ติดลบ 2,260 ล้านบาท และปี 65 ติดลบ 2,846 ล้านบาท

ส่วนเงินสดสุทธิจากกิจกรรมจัดหาเงินปี 61 ติดลบ 160 ล้านบาท ปี 62 กลับมาเป็นบวกอยู่ที่ 503 ล้านบาท ปี 63 อยู่ที่ 1,289 ล้านบาท ปี 64 อยู่ที่ 1,015 ล้านบาท และปี 65 อยู่ที่ 1,963 ล้านบาท ดังนั้นทำให้มีเงินสดสุทธิปี 61 ติดลบ 799 ล้านบาท ปี 62 ติดลบ 8.94 ล้านบาท ปี 63 เป็นบวก 709 ล้านบาท ปี 64 ติดลบ 732 ล้านบาท และปี 65 เป็นบวก 234 ล้านบาท

Back to top button