ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง PMC ขายไอพีโอ 115.72 ล้านหุ้น ลุยเทรด mai ปี 67

ก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่ง PMC เสนอขายไอพีโอ 115.72 ล้านหุ้น ระดมทุนเพิ่มกำลังผลิต และขยายศูนย์กระจายสินค้าในอาเซียน ชูจุดเด่นด้านการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์หรือฉลากกาวรายใหญ่ จำหน่ายทั้งในประเทศและอีกกว่า 15 ประเทศทั่วโลก


นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMC ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์หรือฉลากกาวรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 115,715,000 หุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (Par value) 1.00 บาทต่อหุ้น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อสนับสนุนให้ PMC มีศักยภาพและความพร้อมสูงในการเติบโต พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่า (Sticker Label) ในภูมิภาคอาเซียน

โดย PMC จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้ลงทุนขยายธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการขยายศูนย์กระจายสินค้าในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย และเวียดนาม ลงทุนขยายกำลังการผลิตและชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อสินค้า และเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

สำหรับ PMC เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกาวอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ โดยบริษัทฯ ถือเป็นแกนหลัก (Flagship Company) ในกลุ่ม SELIC ที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่า ซึ่งเป็นวัตถุดิบต้นน้ำสำหรับการผลิตฉลากสินค้าและฉลากบรรจุภัณฑ์

อีกทั้งยังสามารถต่อยอดการใช้งานได้ในอีกหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น สติ๊กเกอร์บาร์โค้ด (Barcode) สติ๊กเกอร์ติดกระเป๋าเดินทาง (Luggage Tag) และฝาบิดบรรจุภัณฑ์ (Sealing Sticker) เป็นต้น ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จาก SELIC เกี่ยวกับเทคนิคการปรับสูตรผสมกาวซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักอย่างหนึ่งของสติ๊กเกอร์ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีคุณภาพและได้รับการยอมรับจากลูกค้าในอุตสาหกรรมเป็นอย่างดี

โรงงานผลิตสินค้าของบริษัทฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 13 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ จังหวัดสมุทรสาคร มีกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์ 75 ล้านตารางเมตรต่อปี และเพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการลงทุนขยายกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์อีก 110 ล้านตารางเมตรต่อปี มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 260 ล้านบาท

โดยปัจจุบันสายการผลิตใหม่อยู่ระหว่างการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 1/2567 เป็นต้นไป ภายหลังจากที่สายการผลิตใหม่ติดตั้งแล้วเสร็จ บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์รวมทั้งสิ้น 185 ล้านตารางเมตรต่อปี ซึ่งถือเป็นกำลังการผลิตที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 3 ของผู้ประกอบการในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉลากกาวในภูมิภาคอาเซียนต่อไป

นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMC เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัท PMC เรียบร้อยแล้วตามแผน คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจ สินค้าอุตสาหกรรม (INDUS) ภายในปี 2567

สำหรับสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าในประเทศประมาณ 60% และอีก 40% เป็นการจำหน่ายให้แก่ลูกค้าในต่างประเทศกว่า 15 ประเทศทั่วโลก โดยมีฐานลูกค้าหลักในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถเพิ่มยอดขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่องจาก 708 ล้านบาท ในปี 2563 เป็น 834 ล้านบาท ในปี 2564 และ 874 ล้านบาท ในปี 2565 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย หรือ CAGR ร้อยละ 11.1 ต่อปี แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

จุดเด่นของ PMC คือ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์เปล่า (Sticker) หรือฉลากกาว (Self-Adhesive Label) รายใหญ่ของประเทศ บริษัทฯ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในรูปแบบสติ๊กเกอร์เปล่า ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สติ๊กเกอร์กระดาษ สติ๊กเกอร์ฟิล์ม และสติ๊กเกอร์ชนิดพิเศษอื่นๆ บริษัทฯ จำหน่ายสติ๊กเกอร์ให้แก่ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงพิมพ์ฉลากสินค้า (Printer) และผู้ผลิตฉลากสินค้า (Converters) เป็นหลัก โดยลูกค้าจะนำสติ๊กเกอร์เปล่าไปดำเนินการออกแบบ จัดพิมพ์ลวดลาย และตัดให้ได้รูปทรง เพื่อผลิตเป็นฉลากสินค้าให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือ End Users ตามลำดับ

โดยบริษัทฯจำหน่ายสติ๊กเกอร์ให้ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ PMC Label Materials PTE., Ltd. หรือ PMCS ในประเทศสิงคโปร์ และ PMC Label Materials (Malaysia) SDN. BHD. หรือ PMCM ในประเทศมาเลเซีย

Back to top button